Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
ความคิดเห็นของผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตการศึกษา 5 เกี่ยวกับวิธีการตัดสินใจสั่งการในการบริหารโรงเรียน
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
Opinions of secondary school administrators in educational region five concerning the decision making strategies in school administration
Year (A.D.)
1987
Document Type
Thesis
First Advisor
วไลรัตน์ บุญสวัสดิ์
Faculty/College
Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)
Degree Name
ครุศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
บริหารการศึกษา
DOI
10.58837/CHULA.THE.1987.227
Abstract
วัตถุประสงค์ของการวิจัย 1. เพื่อศึกษาความคิดเห็นของผู้บริหารโรงเรียนแต่ละขนาด เกี่ยวกับวิธีการตัดสินใจสั่งการในงานบริหารการศึกษาของโรงเรียน ตามที่ปฏิบัติจริงและตามความคาดหวัง 2. เพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของผู้บริหารโรงเรียนแต่ละขนาดเกี่ยวกับวิธีการตัดสินใจสั่งการในงานบริหารการศึกษาของโรงเรียน ตามที่ปฏิบัติจริงและตามความคาดหวัง 3. เพื่อศึกษาปัญหาและอุปสรรคของการตัดสินใจสั่งการในงานบริหารการศึกษาของโรงเรียนแต่ละขนาด สมมุติฐานของการวิจัย ความคิดเห็นของผู้บริหารโรงเรียนแต่ละขนาด เกี่ยวกับวิธีการตัดสินใจสั่งการในงานบริหารการศึกษาของโรงเรียน ตามที่ปฏิบัติจริงและตามความคาดหวังไม่แตกต่างกัน วิธีดำเนินการวิจัย การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยแบบสำรวจ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับงานบริหารการศึกษาของโรงเรียน 5 ประเภท ได้แก่ งานวิชาการ งานบุคลากร งานกิจการนักเรียน งานธุรการ การเงิน อาคารสถานที่ และงานความสัมพันธ์กับชุมชน โดยใช้วิธีการตัดสินใจสั่งการตามแนวความคิดของ วิคเตอร์ เอช วรูม และฟิลลิป ดับบลิว เยตตอน (Victor H. Vroom and Philip W Yetton) แบบสอบถามแบ่งเป็น 3 ตอน ตอนที่ 1 สอบถามสถานภาพของผู้ตอบแบบสอบถาม และข้อมูลทั่วไปของโรงเรียนมีลักษณะเป็นแบบตรวจสอบรายการ ตอนที่ 2 สอบถามความคิดเห็นของผู้บริหารโรงเรียนเกี่ยวกับวิธีการตัดสินใจสั่งการในงานบริหารการศึกษา มีลักษณะเป็นแบบตรวจสอบรายการ ตอนที่ 3 สอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาและอุปสรรคของการตัดสินใจสั่งการในงานบริหารการศึกษาของโรงเรียน มีลักษณะเป็นแบบมาตราส่วนประเมินค่า ผู้วิจัยได้ใช้แบบสอบถามนี้ สอบถามกลุ่มประชากรซึ่งเป็นผู้บริหารโรงเรียนของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตการศึกษา 5 จำนวน 110 คน การเก็บรวบรวมข้อมูลกระทำโดยการส่งและรับแบบสอบถามคืนทั้งด้วยตนเองและทางไปรษณีย์ จำนวนแบบสอบถามที่ได้รับคืนเพื่อใช้ในการวิจัย 99 ฉบับ คิดเป็นร้อยละ 90 การวิเคราะห์ข้อมูล ใช้วิธีหาค่าร้อยละ ค่าคะแนนเฉลี่ย ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน ส่วนการทดสอบสมมุติฐานใช้การทดสอบแบบไค-สแควร์ สรุปผลการวิจัย 1. ความคิดเห็นเกี่ยวกับวิธีการตัดสินใจสั่งการในงานบริหารการศึกษาของโรงเรียนขนาดใหญ่ ปรากฏว่าในด้านที่ปฏิบัติจริง ผู้บริหารโรงเรียนใช้วิธีการตัดสินใจสั่งการด้วยวิธีที่ 4 (ผู้บริหารอภิปรายปัญหาร่วมกับกลุ่มผู้ใต้บังคับบัญชา แล้วพิจารณาตัดสินใจด้วยตนเอง) ในงานบริหารการศึกษาด้านวิชาการ ด้านบุคลากร ด้านความสัมพันธ์กับชุมชน และใช้วิธีที่ 5 (ผู้บริหารประชุมอภิปรายปัญหา ประเมินทางเลือกร่วมกับผู้ใต้บังคับบัญชาแล้วทำการตัดสินใจโดยใช้ความเห็นสอดคล้องกัน) ในงานบริหารการศึกษาด้านกิจการนักเรียน และด้านธุรการ การเงิน อาคารสถานที่ ส่วนในด้านความคาดหวัง ผู้บริหารโรงเรียนใช้วิธีการตัดสินใจสั่งการด้วยวิธีที่ 4 ในงานบริหารการศึกษาด้านบุคลากร และใช้วิธีที่ 5 ในงานบริหารการศึกษาด้านวิชาการ ด้านกิจกานักเรียน ด้านธุรการ การเงิน อาคารสถานที่ และด้านความสัมพันธ์กับชุมชน การเปรียบเทียบความคิดเห็นของผู้บริหารโรงเรียน เกี่ยวกับวิธีการตัดสินใจสั่งการในงานบริหารการศึกษา ตามที่ปฏิบัติจริงและตามความคาดหวัง ปรากฏว่ามีความคิดเห็นแตกต่างกันทุกด้านอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ 0.01 ซึ่งไม่เป็นไปตามสมมุติฐานที่ตั้งไว้ 2. ความคิดเห็นเกี่ยวกับวิธีการตัดสินใจสั่งการในงานบริหารการศึกษาของโรงเรียนขนาดกลาง ปรากฏว่าทั้งในด้านที่ปฏิบัติจริงและด้านความคาดหวัง ผู้บริหารโรงเรียนใช้วิธีตัดสินใจสั่งการด้วยวิธีที่ 4 ในงานบริหารการศึกษาด้านบุคลากร และใช้วิธีที่ 5 ในงานบริหารการศึกษาด้านวิชาการ ด้านกิจการนักเรียน ด้านธุรการ การเงิน อาคารสถานที่ และความสัมพันธ์กับชุมชน การเปรียบเทียบความคิดเป็นของผู้บริหารโรงเรียน เกี่ยวกับวิธีการตัดสินใจสั่งการในงานบริหารการศึกษา ตามที่ปฏิบัติจริงและตามความคาดหวัง ปรากฏว่ามีความคิดเป็นแตกต่างกันทุกด้านอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ 0.01 ซึ่งไม่เป็นไปตามสมมุติฐานที่ตั้งไว้ 3. ความคิดเห็นเกี่ยวกับวิธีการตัดสินใจสั่งการในงานบริหารการศึกษาของโรงเรียนขนาดเล็ก ปรากฏว่าในด้านที่ปฏิบัติจริง ผู้บริหารโรงเรียนใช้วิธีตัดสินใจสั่งการด้วยวิธีที่ 1 (ผู้บริหารตัดสินใจด้วยตนเอง โดยใช้ข้อมูลที่มีอยู่) ในงานบริหารการศึกษาด้านบุคลากร และใช้วิธีที่ 5 ในงานบริหารการศึกษาด้านวิชาการ ด้านกิจการนักเรียน ด้านธุรการ การเงิน อาคารสถานที่ และด้านความสัมพันธ์กับชุมชน ส่วนในด้านความคาดหวัง ผู้บริหารโรงเรียนใช้วิธีการตัดสินใจสั่งการด้านวิธีที่ 5 ในงานบริหารการศึกษาทุกด้าน การเปรียบเทียบความคิดเห็นของผู้บริหารโรงเรียน เกี่ยวกับวิธีการตัดสินใจสั่งการในงานบริหารการศึกษา ตามที่ปฏิบัติจริงและตามความคาหวัง ปรากฏว่ามีความคิดเห็นแตกต่างกันทุกด้านอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ 0.01 ซึ่งไม่เป็นไปตามสมมุติฐานที่ตั้งไว้ 4. ปัญหาและอุปสรรคของการตัดสินใจสั่งการในงานบริหารการศึกษาของโรงเรียนมัธยมศึกษาทั้ง 3 ขนาด ที่ผู้บริหารโรงเรียนระบุเป็นปัญหาลำดับที่ 1 คือ ปัญหาเกี่ยวกับระบบราชการที่ล่าช้า และมีระเบียบกฎเกณฑ์มาก สำหรับปัญหาลำดับสุดท้ายของโรงเรียนขนาดใหญ่และขนาดกลาง คือ ปัญหาเกี่ยวกับอิทธิพลของบุคคลภายนอกโรงเรียน แต่ปัญหาลำดับสุดท้ายของโรงเรียนขนาดเล็ก คือ ปัญหาเกี่ยวกับอิทธิพลจากผู้ร่วมงาน
Creative Commons License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
กาทอง, ธานี, "ความคิดเห็นของผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตการศึกษา 5 เกี่ยวกับวิธีการตัดสินใจสั่งการในการบริหารโรงเรียน" (1987). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 46530.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/46530