Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
ปัญหาการบังคับใช้กฎหมายอั้งยี่ : ซ่องโจรในประเทศไทย
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
The problems of enforcting the low of secret society offnces and criminal association offences in Thailand
Year (A.D.)
1987
Document Type
Thesis
First Advisor
มุรธา วัฒนะชีวะกุล
Second Advisor
เกียรติขจร วัจนะสวัสดิ์
Faculty/College
Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)
Degree Name
นิติศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
นิติศาสตร์
DOI
10.58837/CHULA.THE.1987.492
Abstract
ความผิดฐานอั้งยี่ : ซ่องโจร เป็นบทบัญญัติในทางอาญาที่มีเจตนารมย์และวัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครองผลประโยชน์และสวัสดิภาพของสาธารณชนเป็นประการสำคัญ โดยมุ่งถึงการกระทำบางอย่างที่มีพฤติกรรมอันอาจจะก่อให้เกิดความหวาดหวั่น ทำให้สังคมเกิดอัตราเสี่ยง (degree of risk) ทั้งนี้เนื่องจากการกระทำในลักษณะนี้เกิดจากการที่บุคคลหลายคนได้ร่วมมือกันกระทำ ซึ่งลักษณะของการร่วมมือนี้ทำให้ความผิดนั้นร้ายแรงขึ้น การกระทำบางอย่างมีความประสงค์มุ่งหมายเป็นการถาวร เพื่อเตรียมการหรือจัดวางแผนการในการกระทำผิด ซึ่งนับว่าเป็นภัยต่อความสงบสุขของประชาชนเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้การกระทำดังกล่าว ยังได้ก่อความยุ่งยากแก่การปราบปรามและการพิสูจน์ความผิด จากประวัติและความเป็นมา ความผิดฐานอั้งยี่ : ซ่องโจรได้มีมาแต่สมัยโบราณ แต่อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาปรากฏว่าการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวได้ประสบปัญหาในทางปฏิบัติ กล่าวคือ ในส่วนของความผิดอั้งยี่ ไม่ปรากฏมีการบังคับใช้ให้เกิดผลในทางปฏิบัตินัก ทั้งๆ ที่ในปัจจุบันอาชญากรรมที่เกิดจากการร่วมกันกระทำความผิดของบุคคลเป็นแก๊งค์ หรือ เป็นองค์กร นับวันจะมีแนวโน้มทวีมากขึ้นในสังคม ซึ่งต่างกับความผิดฐานซ่องโจรที่มีการบังคับใช้กันอย่างแพร่หลาย แต่ที่ผ่านมามักจะพบว่า การบังคับใช้ของพนักงาน เจ้าหน้าที่ได้เป็นไปในลักษณะของการสนองนโยบายของรัฐในช่วงขณะใดขณะหนึ่งเท่านั้น นอกจากนี้การบังคับใช้มักจะอยู่เพียงในขั้นตอนของเจ้าพนักงานตำรวจเท่านั้น ซึ่งการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวในขั้นเจ้าพนักงานตำรวจนี้เป็นไปเพื่อนโยบายการสร้างความสงบสุขแก่สังคมมากกว่าการหวังผลในทางคดี ด้วยเหตุนี้ผู้ถูกจับกุมในความผิดดังกล่าวจึงมีสถิติเข้าสู่กระบวนการพิจารณาในชั้นศาลน้อยมาก โดยส่วนใหญ่ มักได้รับการปล่อยตัวไปหลังจากถูกควบคุมตัวในชั้นสอบสวนมาระยะหนึ่ง จากการปฏิบัติของพนักงานตำรวจที่ยึดถือนโยบายการสร้างความสงบสุขแก่สังคมโดยอาศัยบทบัญญัติความผิดฐานซ่องโจรนี้เอง ที่ผ่านมาจึงมักถูกวิพากษ์วิจารณ์จากสื่อมวลชนและประชาชนโดยเสมอว่า พนักงานตำรวจมักอาศัยความผิดดังกล่าวไปในทางที่ไม่ชอบ และเป็นการกระทบต่อหลักการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนนอกจากนี้จากการวิจัยพบว่าปัญหาและอุปสรรคของการยังคับใช้กฎหมายอั้งยี่ : ซ่องโจรมีหลายประการ เป็นต้นว่า ในด้านนโยบายของรัฐ ปรากฏว่ารัฐยังให้ความสำคัญต่อปัญหาอาชญากรรมในลักษณะดังกล่าวน้อยมาก ในด้านรูปแบบและวิธีการดำเนินการของอาชญากรรมในความผิดดังกล่าว มักมีลักษณะเป็นการปกปิด ทั้งนี้เพราะเป็นความผิดที่อยู่ในขั้นตอนของการเริ่มต้น ความผิดตามกฎหมายอาญา ทั้งกิจการที่เนื่องมาจากอาชญากรรมดังกล่าว สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนบางกลุ่ม นอกจากนี้วิธีดำเนินการของอาชญากร ได้พยายามหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับองค์กรของรัฐ ประกอบกับตัวอาชญากรมักเป็นผู้มีความรู้ ความชำนาญ และมีปัจจัยสนับสนุนในการคงอยู่ และการปฏิบัติขององค์กร ทั้งทางด้านการเงินและจากหน่วยงานของรัฐ ในส่วนขององค์ของรัฐจะเห็นได้ว่า ในปัจจุบันรัฐยังไม่มีหน่วยงานที่รับผิดชอบต่อปัญหาอาชญากรรมดังกล่าวโดยตรง นอกจากนี้โครงสร้างขององค์กรในกระบวนการยุติธรรมก็ยังไม่เอื้ออำนวยต่อการบังคับใช้กฎหมาย รวมทั้งการขาดการประสานงานในองค์กรที่เกี่ยวข้อง ด้านประชาชนเองก็ยังขาดการตระหนักในปัญหาอาชญากรรมดังกล่าว ทั้งนี้เนื่องจากการขาดข้อมูล การมีทัศนคติที่ไม่ถูกต้องต่อการปฏิบัติของเจ้าพนักงาน รวมตลอดทั้งความไม่มั่นใจในการคุ้มครองของรัฐ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม เราอาจสันนิษฐานเบื้องต้นว่า สภาพปัญหาของอาชญากรรมที่เกิดจากการร่วมกันของบุคคลเป็นกลุ่ม หรือเป็นองค์การมักจะมีความสัมพันธ์กับประสิทธิภาพของกระบวนการบังคับใช้กฎหมาย หรือ กระบวนการยุติธรรมของฝ่ายบริหาร กล่าวคือ อาชญากรรมดังกล่าวจะมีความสลับซับซ้อน และทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น หากกระบวนการบังคับใช้กฎหมายและการบริหารงานยุติธรรมยังบกพร่องและขาดประสิทธิภาพ ด้วยเหตุนี้ รัฐจึงต้องมีนโยบายที่แน่ชัดต่อปัญหาอาชญากรรมดังกล่าว สำหรับกลไก หรือหน่วยงานที่ทำหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย ควรมีโครงสร้างและมีปัจจัยที่สามารถสนองตอบต่อปัญหาอาชญากรรมดังกล่าวอย่างจริงจัง นอกจากนี้ในส่วนบุคลากรเอง ควรมีการพัฒนาเพื่อความเป็นนักปฏิบัติการ หรือผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ ความสามารถทันต่อปัญหาอาชญากรรมในลักษณะดังกล่าวโดยตรงในส่วนของประชาชน รัฐต้องนำเสนอข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับอาชญากรรมดังกล่าว ทั้งนี้เพื่อให้ประชาชนได้ทราบและตระหนักถึงผลกระทบอันเนื่องมาจากการกระทำของกลุ่มอาชญากรดังกล่าว อันจะเป็นการป้องกันการเข้าร่วมและให้การสนับสนุนต่อกลุ่มอาชญากรดังกล่าว
Creative Commons License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
พัฒนสาร, สุรจิต, "ปัญหาการบังคับใช้กฎหมายอั้งยี่ : ซ่องโจรในประเทศไทย" (1987). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 46459.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/46459