Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การศึกษาต้นทุนและอัตราผลตอบแทนในการลงทุนทำไร่เก๊กฮวย เพื่อผลิตดอกเก๊กฮวยแห้งในฤดูการผลิต 2526 และ 2528

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Study on cost and rate of return on investment in chrysanthemum growing for dried chrysanthemum flowers for the season 1983 and 1985

Year (A.D.)

1987

Document Type

Thesis

First Advisor

นิกร อินทุโสภณ

Second Advisor

ธารี หิรัญรัศมี

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

บัญชีมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

การบัญชี

DOI

10.58837/CHULA.THE.1987.532

Abstract

การศึกษาต้นทุนและอัตราผลตอบแทนในการลงทุนทำไร่เก๊กฮวยเพื่อผลิตดอกเก๊กฮวยแห้งในฤดูการผลิต 2526 และ 2528 ผู้วิจัยได้สำรวจข้อมูลจากเกษตรกรโดยวิธีสุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง (Purposive Sampling) ในระหว่างเดือนเมษายน 2526 ถึงเดือนมีนาคม 2529 มีจำนวนตัวอย่างเกษตรกรและพื้นที่ในการสำรวจโดยเฉลี่ยปี 2526 และ 2528 แบ่งเป็น 4 กลุ่มดังนี้ กลุ่มที่ 1 เกษตรกรที่ปลูกและเก็บดอกสดจำหน่ายในอำเภอสะเมิงและสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 5 ราย พื้นที่สำรวจ 16 ไร่ 3 งาน กลุ่มที่ 2 เกษตรกรที่ปลูกและเก็บดอกสดจำหน่ายในอำเภอมวกเหล็กจังหวัดสระบุรี จำนวน 13 ราย พื้นที่ปลูก 39 ไร่ 1 งาน กลุ่มที่ 3 เกษตรกรที่ปลูกและเก็บดอกสดจำหน่ายในกลุ่มที่ 1 และกลุ่มที่ 2 นำมาหาค่าเฉลี่ยโดยมีจำนวนเกษตรกรรวม 18 ราย พื้นที่ปลูก 56 ไร่ กลุ่มที่ 4 เกษตรกรที่ทำไร่เพื่อผลิตดอกเก๊กฮวยแห้งจำหน่ายในอำเภอสะเมิงและสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 26 ราย พื้นที่ปลูก 97 ไร่ จาการสำรวจพบว่าดอกเก๊กฮวยที่มีอยู่ในประเทศไทยปัจจุบันมี 2 พันธุ์ คือ พันธุ์ กน. 1 (กองอนุรักษ์ต้นน้ำ 1) และ กน. (กองอนุรักษ์ต้นน้ำ 2 หรือ พันธุ์หันโจ) ซึ่งมีลักษณะคล้านกันเพียงแต่ขนาดของดอกและใบที่แตกต่างกัน ส่วนวิธีการปลูกเหมือนกัน โดยเริ่มจากเพาะกล้าเก๊กฮวยในแปลเพาะหรือเรือเพาะชำ เตรียมดินที่เหมาะสม และลงมือปลูกในพื้นที่ทีมีอากาศค่อนข้างเย็น ดินมีการระบายน้ำดี มีปุ๋ยอุดมสมบูรณ์ รวมทั้งมีการป้องกันโรคและแมลงศัตรูพืชเป็นอย่างดี เกษตรกรสามารถเก็บดอกเก๊กฮวยได้หลังจากลงมือปลูกในช่วงเดือนพฤษภาคม และบำรุงรักษาต่อไปอีก 5-6 เดือนนำไปจำหน่ายเป็นดอกสด หรือนำไปนิ่ง 4-5 นาทีแล้วนำไปตากหรืออบให้แห้งในอุณหภูมิประมาณ 60 องศาเซลเซียส นาน 6 ชั่วโมงก็จะได้ดอกเก๊กฮวยแห้งซึ่งสามารถนำไปจำหน่ายได้อีกรูปแบบหนึ่ง ผลสรุปของต้นทุน รายได้กำไรสุทธิ และอัตราผลตอบแทนในการลงทุนต่อไร่เฉลี่ยปี 2526 และ 2528 ของเกษตรกรแต่ละกลุ่ม (เรียงลำดับ กลุ่มที่ 1 ; กลุ่มที่ 2 ; กลุ่มที่ 3 ; กลุ่มที่ 4) เป็นดังนี้รายได้เฉลี่ยต่อไร่ (บาท) (14,020.90 ; 16,778.60 ; 15,953.75 ; 14,423.25) -- ต้นทุนรวมเฉลี่ยต่อไร่ (บาท) (-4,894.51 ; -4,855.20 ; -4,766.49 ; -6,997.72) -- กำไรสุทธิต่อไร่ (บาท) (9,126.39 ; 11,923.40 ; 11,187.26 ; 7,425.53) -- เงินลงทุนต่อไร่ (บาท) (5,105.61 ; 5,075.53 ; 4,984.06 ; 8,918.30) -- อัตราผลตอบแทนต่อยอดขาย (%) (65.09 ; 71.06 ; 70.12 ; 51.48) -- อัตราผลตอบแทนต่อต้นทุนรวม (%) (186.46 ; 245.58 ; 234.71 ; 106.11) -- อัตราผลตอบแทนในการลงทุน (%) (178.75 ; 234.92 ; 224.46 ; 83.26) -- ระยะเวลาคืนทุน (%) (6 เดือน 17 วัน ; 5 เดือน ; 5 เดือน 7 วัน ; 11 เดือน 13 วัน) -- กำไรสุทธิต่อคน/ต่อเดือน (บาท) (เฉลี่ยจำนวนเกษตรกรที่ใช้ไร่ละ 4 คน) (190.13 ; 248.4 ; 233.07 ; 154.7) ในการทำวิจัยพบว่าในฤดูการผลิตปี 2527 ระหว่างเดือนเมษายน 2527 ถึงมีนาคม 2528 เกิดโรคระบาดและมีแมลงศัตรูพืชทำความเสียหายแก่ไร่เก๊กฮวยในจังหวัดเชียงใหม่เป็นจำนวนมากจึงไม่นำข้อมูลมาสรุปและเฉลี่ยเป็นต้นทุนในการทำไร่ดังกล่าวด้วยและจากอัตราผบตอบแทนในการลงทุนที่ได้รับเฉลี่ยปี 2526 และ 2528 สูงเมื่อนำมาเปรียบเทียบกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ เฉลี่ยร้อยละ 11.60 จะเห็นได้ว่าน่าที่จะลงทุนในการทำไร่แต่ปัญหาสภาพพื้นที่ภูมิอากาศที่จำเป็นในการปลูกเก็กฮวย ปัญหาเกี่ยวกับการทำแห้งซึ่งยังไม่ทันสมัย ปัญหาการจำหน่าย การแข่งขันด้านคุณภาพของดอกเก็กฮวยแห้งทีนำเข้ามาจากต่างประเทศ รวมทั้งปัญหาด้านราคาจำหน่ายดอกเก๊กฮวยแห้ง เป็นเงื่อนไขให้การลงทุนทำไร่เก๊กฮวยเพื่อผลิตดอกเก๊กฮวยแห้งจำหน่ายไม่อาจทำได้แพร่หลายทั่วประเทศ นอกจากนั้นปัญหาที่ประสบอยู่สำหรับเกษตรกรที่ทำไร่เก๊กฮวยในปัจจุบันคือ กำไรสุทธิจากการทำไร่เก๊กฮวยเพื่อผลิตดอกเก๊กฮวยแห้งจำหน่ายไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพอยู่ตลอดปีของเกษตรกรเพราะเกษตรกรที่ปลูกและเก็บดอกสดจำหน่ายจะมีกำไรสุทธิที่ดำรงชีพได้ต่อคนต่อเดือนเฉลี่ยปี 2526 และ 2528 ต่อไร่ 233.07 บาท และเกษตรกรที่ทำไร่เพื่อผลิตดอกแห้งจำหน่ายมีกำไรสุทธิต่อเดือนเฉลี่ยปี 2526 และ 2528 เพียง 154.70 บาท ซึ่งยังคงต่ำกว่าการใช้แรงงานในภาคอุตสาหกรรม เนื่องจากการจ้างแรงงานในอัตราค่าจ้างที่ต่ำเพียงวันละ 20-30 บาทส่งผลให้เกษตรกรยังอยู่ในสภาพที่ยากจน และมักจะเกิดการโยกย้ายแรงงานไปสู่ในเมือง หรือกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีค่าจ้างขั้นต่ำที่สูงกว่ากำไรที่ได้รับจากการทำไร่เก๊กฮวยเพื่อผลิตดอกเก๊กฮวยแห้งจำหน่าย ดังนั้นในการส่งเสริมการทำไร่เก๊กฮวยเพื่อผลิตดอกแห้งจำหน่ายจึงจำเป็นที่หน่วยราชการที่เกี่ยวข้องในการส่งเสริมการปลูกเก๊กฮวยควรร่วมมือกันพัฒนาวิธีการปลูกเพื่อให้ได้ผลผลิตต่อไร่สูงขึ้น ปรับปรุงกรรมวิธีในการทำดอกแห้งให้สะอาดทันสมัย สามารถเก็บผลิตดอกแห้งได้นานด้วยบรรจุภัณฑ์ที่ดี รวมทั้งสนับสนุนการลงทุนในการทำไร่โดยให้สินเชื่อแก่เกษตรกรมในอัตราดอกเบี้ยต่ำ ซึ่งจะมีผลให้ความเป็นอยู่ของเกษตรกรดีขึ้น มีกำไรสุทธิจากการทำไร่ต่อคนต่อเดือนสูงขึ้น เป็นการกระจายรายได้สู่ชนบททั้งยังช่วยป้องกันการย้ายถิ่นทำกินเข้าสู่เมืองอีกทางหนึ่งด้วย

Share

COinS