Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
ปฏิสัมพันธ์ระหว่างแบบการคิดกับระดับความสมบูรณ์ของภาพ ที่มีต่อสัมฤทธิผลทางการเรียนรู้ด้านพุทธิพิสัย ด้านความเข้าใจในการฟังภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
The interaction of cognitive styles and levels of completeness of picture upon the cognitive learning achievement in English listening comprehension of mathayom suksa three students
Year (A.D.)
1987
Document Type
Thesis
First Advisor
เชาวเลิศ เลิศชโลฬาร
Faculty/College
Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)
Degree Name
ครุศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
โสตทัศนศึกษา
DOI
10.58837/CHULA.THE.1987.147
Abstract
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปฏิสัมพันธ์ระหว่างแบบการคิดกับระดับความ สมบูรณ์ของภาพที่มีต่อสัมฤทธิผลทางการเรียนรู้ด้านพุทธิพิสัย ด้านความเข้าใจในการฟังภาษา อังกฤษ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่างประชากรเป็นนักเรียนโรงเรียนสองพิทยาคม โรงเรียนม่วงไข่พิทยาคม และโรงเรียนสูงเม่นชนูปถัมภ์ จังหวัดแพร่ ปีการศึกษา 2529 จากจำนวนประชากร 460 คน ซึ่งได้ผ่านการทดสอบ เดอะ กรุป เอมเบดเดด ฟิกเกอร์ เทสต์ เพื่อแบ่งประเภทของแบบการคิดออกเป็น 3 ลักษณะ คือ ฟิลด์ ดิ เพนเดนซ์ ฟิลด์ อินดิเพนเดนซ์ และกลุ่มกลาง จากนั้นทำการสุ่มตัวอย่างประชากรแบบแบ่งชั้น จากนักเรียนที่มีแบบการคิดทั้งสามประเภทออกมากลุ่มละ 100 คน รวมจำนวนกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด 300 คน แบ่งนักเรียน ออกเป็นแบบการคิดละ 4 กลุ่มย่อยโดยการสุ่มตัวอย่างอย่างง่าย กลุ่มย่อยละ 25 คน เพื่อเข้ารับการทดลองเสนอภาพที่มีระดับความสมบูรณ์ของภาพ 4 แบบ คือ ภาพที่มีสาระไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องภาพที่ปรากฏสาระเพียงบางส่วน ภาพที่ปรากฏสาระสำคัญเท่านั้น และภาพที่มีสาระสมบูรณ์ ภาพที่ใช้ในการทดลอง เป็นภาพสไลด์ขาวดำวาดลายเส้นอย่างง่าย 4 ชุด ชุดละ 9 ภาพ ประกอบเทปเสียงบรรยายภาพ แล้วทดสอบสัมฤทธิผลทางการเรียนรู้ด้านพุทธิพิสัย ในความเข้าใจในการฟังภาษาอังกฤษ ข้อมูลที่ราบรวมได้วิเคราะห์โดยวิธีการวิเคราะห์ความแปรปรวนสองทาง ที่ระดับนัยสำคัญ .05 และเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างคู่ โดยวิธีการของ นิวแมน เคิลส์ ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้ 1. นักเรียนที่มีแบบการคิดต่างกัน เมื่อเรียนด้วยภาพที่มีระดับความสมบูรณ์ของภาพต่างกัน มีสัมฤทธิผลทางการ เรียนรู้ด้านพุทธิพิสัย ด้านความ เข้าใจในการฟังภาษาอังกฤษ ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .05 2. นักเรียนที่มีแบบการคิดต่างกัน มีสัมฤทธิผลทางการเรียนรู้ด้านพุทธิพิสัย ในความเข้าใจในการฟังภาษาอังกฤษแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และพบว่านักเรียนที่มีแบบการคิด ฟิลด์ อินดิเพนเดนซ์ มีสัมฤทธิผลทางการเรียนรู้ด้านพุทธิพิสัยเป็นค่าเฉลี่ยของคะแนน สูงกว่า นักเรียนที่มีแบบการคิด ฟิลด์ ดิเพนเดนซ์ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3. ภาพที่มีระดับความสมบูรณ์ของภาพต่างกัน ทำให้สัมฤทธิผลทางการเรียนรู้ ด้านพุทธิพิสัย ในความเข้าใจในการฟังภาษาอังกฤษแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยที่ 3.1 นักเรียนที่เรียนด้วยภาพที่มีสาระโดยสมบูรณ์ มีสัมฤทธิผลทางการเรียนรู้ เป็นค่าเฉลี่ยของคะแนนสูงกว่านักเรียนที่เรียนด้วยภาพที่มีสาระไม่เกี่ยวข้องกับเรื่อง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3.2 นักเรียนที่เรียนด้วยภาพที่ปรากฏสาระเพียงบางส่วน มีสัมฤทธิผลทางการเรียนรู้ เป็นค่าเฉลี่ยของคะแนนสูงกว่า นักเรียนที่ เรียนด้วยภาพที่มีสาระไม่ เกี่ยวข้องกับ เรื่องอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3.3 นักเรียนที่เรียนด้วยภาพที่ปรากฏสาระสำคัญเท่านั้น มีสัมฤทธิผลทางการเรียนรู้ เป็นค่าเฉลี่ยของคะแนนสูงกว่านักเรียนที่เรียนด้วยภาพที่มีสาระไม่เกี่ยวข้องกับเรื่อง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
Creative Commons License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
ศรีกระจ่าง, ภคสินี, "ปฏิสัมพันธ์ระหว่างแบบการคิดกับระดับความสมบูรณ์ของภาพ ที่มีต่อสัมฤทธิผลทางการเรียนรู้ด้านพุทธิพิสัย ด้านความเข้าใจในการฟังภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3" (1987). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 46310.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/46310