Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
การชักนำให้เกิดภาวะไฮโปไทรอยด์ด้วยยาเมทิมาโซลและความสัมพันธ์ ระหว่างฮอรณ์โมนไทรอกซิน และภาวะการเจริญพันธุ์ในลิงหางยาว (Macaca Fascicularis) เพศเมีย
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
Induction of hypothyroidism by methimazole and the interrelationships between thyroxine and fertility in female cynomolgus monkeys (Macaca fascicularis)
Year (A.D.)
1988
Document Type
Thesis
First Advisor
พุฒิพงศ์ วรวุฒิ
Second Advisor
ประคอง ตังประพฤทธิ์กุล
Faculty/College
Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)
Degree Name
วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
ชีววิทยาช่องปาก
DOI
10.58837/CHULA.THE.1988.524
Abstract
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์สำคัญ 2 ประการคือ ตรวจหาความสัมพันธ์ของการเปลี่ยนแปลงระดับฮอร์โมน T₄, E₂ และ P ในซีรัม และ E₁ -3-G และ Pd-3∝-G ในปัสสาวะในระยะสำคัญของรอบประจำเดือน ทั้งในช่วงหลังประจำเดือน (D₃) ก่อนตกไข่ (D₁₀) และระยะลูเตียล (D₂₃ ) ของลิงหางยาวเพศเมียที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์ และติดตามหาผลกระทบระยะยาวที่มีต่อระบบต่อมไร้ท่อที่เกี่ยวข้องกับการสืบพันธุ์ และอาการข้างเคียงในลิงที่ชักนำให้อยู่ในภาวะไฮโปไทรอยด์ด้วยยาเมทิมาโซล ผลของการศึกษาพบว่าลิง 7 ตัวมีรอบเดือนเป็นปกติ (26-35วัน) มีระดับของฮอร์โมนในวันD₃,D₁ และ D₂₃ ตามลำดับดังนี้คือ T₄ มีค่า 7.3± 1.4, 5.1±0.7 และ 6.8±1.4 ไมโครกรัม/เดซิลิตร E₂ มีค่า 73.7±32.0, 155.6±44.1 และ 80.4±16.1 พิโคกรัม/มิลลิลิตร และ Pมีค่า 177.5±38.4, 309.7±42.3 และ 2578.2±970.0 พิโคกรัม/มิลลิลิตร ระดับของ E₁ -3-G และ Pd-3∝-g ในปัสสาวะมีการเพิ่มสูงสอดคล้องกับการเพิ่มสูงของ E₂ และ P ในซีรัม แม้ว่าระดับของT₄ทั้งสามระยะของรอบประจำเดือนจะไม่มีความแตกต่างทางสถิติ (p<0.05) แต่ก็มีแนวโน้มว่า T₄จะมีระดับลดลงในช่วงที่มีอีสโตรเจนในซีรัมสูง เมื่อให้ลิงกินยาเมทิมาโซลในปริมาณ 10 มิลลิกรัม/วัน จะมีผลทำให้เกิดภาวะไฮโปไทรอยด์ได้ภายใน 2-14 สัปดาห์ โดยพบระดับ T₄ ลดลงต่ำกว่า 2 ไมโครกรัม/เดซิลิตรอย่างต่อเนื่อง ในช่วงที่ระดับ T₄ ยังอยู่ในเกณฑ์ปกตินั้นพบว่าลิงที่กินยาจะยังคงมีรอบประจำเดือนเป็นปกติ โดยพบมีการเพิ่มสูงของ E₂ ในซีรัมและ E₁ - 3- G ในปัสสาวะในช่วงท้ายของระยะฟอลลิคูลาร์ และติดตามด้วยการเพิ่มสูงของ P ในซีรัมและ Pd-3∝-G ในปัสสาวะในช่วงครึ่งหลังของรอบประจำเดือน แต่เมื่อระดับ T₄ ในซีรัมลดต่ำลงกว่า 2 ไมโครกรัม/เดซิลิตรแล้ว ลิงทุกตัวจะไม่มีการเพิ่มระดับของอีสโตรเจน โปรเจสเตอโรน และเมตาบอไลต์ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของฮอร์โมนเหล่านี้เกิดขึ้นสอดคล้องกับการตรวจพบว่าลิงเริ่มมีอาการ menorrhagia และ/หรือติดตามด้วยอาการ amenorrhea นอกจากนี้ยังพบอาการน้ำนมไหลร่วมด้วยตลอดระยะเวลาที่ศึกษา แม้ว่าในช่วงท้ายของการทดลองจะลดประมาณยาที่ให้ลงเหลือเพียงครึ่งของที่ให้เดิมก็ตาม และพบว่าเมื่อลดปริมาณยาลง ระดับของ T₄และ E₂ ค่อยๆเพิ่มขึ้น แต่ P ยังคงอยู่ในระดับต่ำ การศึกษานี้อาจสรุปได้ว่า ยาประเภทแอนติไทรอยด์ที่นิยมใช้ในปัจจุบันมีผลกระทบระยะยาวต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์และภาวะ การเจริญพันธุ์ของลิงหางยาว และอาการน้ำนมไหลที่เกิดขึ้นหลังจาก ได้รับยา น่าจะเป็นผลมาจากยาออกฤทธิ์ไปกระตุ้นให้ไฮโปทาลามัสหลั่ง TRH ไปกระตุ้นการหลั่งของทั้ง TSH และ PRL จากต่อมใต้สมอง
Creative Commons License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
ไชยสีหา, ยุพาพร, "การชักนำให้เกิดภาวะไฮโปไทรอยด์ด้วยยาเมทิมาโซลและความสัมพันธ์ ระหว่างฮอรณ์โมนไทรอกซิน และภาวะการเจริญพันธุ์ในลิงหางยาว (Macaca Fascicularis) เพศเมีย" (1988). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 44349.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/44349