Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
ความแตกต่างทางค่านิยมของชาวนาในเขต และนอกเขตโครงการชลประทาน
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
Value differences among farmers inside and outside an irrigation project
Year (A.D.)
1987
Document Type
Thesis
First Advisor
วีรสิทธิ์ สิทธิไตรย์
Faculty/College
Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)
Degree Name
สังคมวิทยามหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
สังคมวิทยา
DOI
10.58837/CHULA.THE.1987.735
Abstract
วิทยานิพนธ์นี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความแตกต่างทางค่านิยมของชาวนา ระหว่างชาวนาในเขตและนอกเขตโครงการชลประทาน ซึ่งในการศึกษาครั้งนี้ ได้เลือกศึกษาถึงหัวหน้าครัวเรือนที่เป็นชาวนา หรือตัวแทนหัวหน้าครัวเรือน โดยศึกษาจากจำนวนครัวเรือนที่อยู่ในเขตชลประทานจำนวน 60 ครัวเรือนจาก 2 หมู่บ้าน คือบ้านดินดำ ตำบลเกิ้ง อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม จำนวน 38 ครัวเรือนและบ้านไคร่นุ่น ตำบลท่าขอนยาง อำเภทกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม จำนวน 22 ครัวเรือน และศึกษาจากจำนวนครัวเรือนที่อาศัยอยู่นอกเขตโครงการชลประทาน จำนวน 44 ครัวเรือน จาก 2 หมู่บ้าน คือบ้านกุดรัง ตำบลกุดรัง อำเภอบรบือ ในจังหวัดมหาสารคาม จำนวน 23 ครัวเรือน และ บ้านหนองหญ้าม้า ตำบลหนองเหล็ก อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม จำนวน 21 ครัวเรือน ในการศึกษาครั้งนี้ ได้ใช้เครื่องมือสำรวจค่านิยม ซึ่งทำการดัดแปลงมาจากเครื่องมือสำรวจค่านิยมไทยของสุนทรี สมัครการ เพื่อวัดระดับความแตกต่างของ ค่านิยมโดยแบ่งออกเป็น (ค่านิยมที่ปฏิบัติในปัจจุบัน) 11 ข้อ และค่านิยมจุดหมายปลายทาง (ค่านิยมซึ่งคาดไว้ในอนาคต) 10 ข้อ และนำไปทดสอบ (Pre-Test) กับชาวนาโดยเรียงลำดับค่านิยมทั้ง 2 ชุด ตามความพอใจของแต่ละคน เสร็จแล้วก็ข้อมูลมาวิเคราะห์โดยการดูจากอันดับ สูงต่ำของค่านิยมแล้วนำมาจัดลำดับให้ถูกต้อง จากนั้นได้นำค่านิยมทั้ง 2 ชุด (วิถีปฏิบัติและจุดหมายปลายทาง) มาทำการทดสอบทางสถิติ โดยใช้วิธี T-Test ซึ่งผลการทดสอบปรากฏว่ามีค่านิยมที่มีนัยสำคัญทางสถิติมาทำการศึกษามีค่านิยมวิถีปฏิบัติ 6 ค่านิยม ได้แก่ 1. การเป็นตัวของตัวเอง 2. การปรับตัวเข้ากับจังหวัดและสิ่งแวดล้อม 3. การให้อภัย 4. การกตัญญูรู้คุณ 5. ความรับผิดชอบ 6. ความมีน้ำใจเมตตาอารี ส่วนค่านิยมจุดหมายปลายทาง มีอยู่ 3 ค่านิยม ได้แก่ 1. การช่วยเหลือผู้อื่น 2. การมีหลักธรรมและศาสนาเป็นที่พึ่ง 3. ความภาคภูมิใจในตัวเอง ผลการศึกษาปรากฏว่า 1. ชาวนาในเขตและนอกเขตชลประทาน ให้ความสำคัญกับค่านิยมวิถีปฏิบัติส่วนใหญ่แตกต่างกัน เนื่องมาจากการมีชลประทาน (โครงการสูบน้ำด้วยไฟฟ้า) เข้าไปจึงทำให้ค่านิยมของชาวนาเปลี่ยนแปลงไป ส่วนนอกเขตชลประทานอาศัยน้ำฝนเป็นหลักในการประกอบอาชีพชีวิตความเป็นอยู่จึงแตกต่างจากชาวนาในเขตชลประทาน จึงมีผลให้ค่านิยมแตกต่างกันด้วย 2. ชาวนาในเขตและนอกเขตชลประทานให้ความสำคัญกับค่านิยมจุดหมายปลายทางส่วนใหญ่แตกต่างกัน เนื่องจากการมีชลประทาน (โครงการสูบน้ำด้วยไฟฟ้า) เป็นเพราะว่าการชลประทานนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่เปลี่ยนแปลง ดังนั้นจึงส่งผลให้ค่านิยมของชาวนานั้นแปรเปลี่ยนไปด้วย สืบเนื่องมาจากสภาพแวดล้อมแตกต่างกัน
Creative Commons License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
สินธุศิริ, ศิริพร, "ความแตกต่างทางค่านิยมของชาวนาในเขต และนอกเขตโครงการชลประทาน" (1987). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 44042.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/44042