Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การศึกษาสถานภาพการทำงานและความพึงพอใจในการทำงาน ของมหาบัณฑิตนิเทศศาสตร์พัฒนาการ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

The study of working status and satisfaction of the graduates in development communication graduate programme at Chulalongkorn University

Year (A.D.)

1990

Document Type

Thesis

First Advisor

พัชนี เชยจรรยา

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

นิเทศศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

การประชาสัมพันธ์

DOI

10.58837/CHULA.THE.1990.435

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสถานภาพการทำงานและความพึงพอใจในการทำงานของมหาบัณฑิตนิเทศศาสตรพัฒนาการ ตั้งแต่รุ่นที่สำเร็จการศึกษาในปีการศึกษา 2523-2531 จำนวน 113 คน ผลการวิจัยพบว่า มหาบัณฑิตส่วนใหญ่เป็นหญิง มีอายุระหว่าง 31-40 ปี อาชีพรับราชการร้อยละ 17.4 และสังกัดกระทรวงศึกษาธิการมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 24.2 และสังกัดทบวงมหาวิทยาลัย รองลงมาใกล้เคียงกันคือ ร้อยละ 22.3 มหาบัณฑิตสำเร็จการศึกษามากที่สุดในปี 2525 น้อยที่สุดในปีการศึกษา 2529 ใช้เวลาในการศึกษา 2-3 ปี เป็นส่วนมาก สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรีจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมากที่สุด ร้อยละ 33.6 และส่วนใหญ่มีงานทำก่อนเข้าศึกษาในระดับปริญญาโท ร้อยละ 81.1 ลักษณะงานที่ปฏิบัติ ส่วนใหญ่จะทำหน้าที่สอน มีอายุการทำงาน 11 ปีขึ้นไป ส่วนใหญ่ทำงานตรงกับสาขาวิชาที่เรียนมา มีส่วนน้อยเพียงร้อยละ 7.07 ที่ได้ศึกษาต่อหรือศึกษาเพิ่มเติม ส่วนใหญ่ได้ไปอบรมดูงาน ทั้งในและต่างประเทศ และนอกจากงานประจำแล้วยังมีผลงานวิชาการคือให้บริการทางวิชาการโดยเป็นวิทยากรเป็นส่วนใหญ่ มีปัญหาในการปฏิบัติงานด้านขาดแคลนบุคลากรหรือผู้ร่วมงานที่แข็งขันมากที่สุด รองลงมาคือขาดแคลนวัสดุอุปกรณ์ ความพึงพอใจในการทำงานของมหาบัณฑิตอยู่ในระดับมากมี 2 ด้านคือ ด้านการใช้ความรู้จากประสบการณ์ในการทำงานและด้านสัมฤทธิผล ส่วนความพึงพอใจด้านความก้าวหน้า และด้านการได้ใช้ความรู้จากการศึกษาในการทำงานอยู่ในระดับปานกลาง แต่โดยสรุปความพึงพอใจในการทำงานโดยส่วนรวมอยู่ในระดับปานกลาง เมื่อเปรียบเทียบความพึงพอใจในการทำงานของมหาบัณฑิตที่มีปัจจัยประชากรแตกต่างกัน ดังนี้คือ เพศ,อายุ, อาชีพ, อายุการทำงาน, การได้ทำงานตรงกับไม่ตรงกับสาขาวิชาที่เรียนมา, การได้ปอบรมดูงานกับไม่ได้ไปอบรมดูงาน แล้วไม่พบความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ส่วนการเปรียบเทียบความพึงพอใจในการทำงานของมหาบัณฑิตตามลักษณะการทำงานที่แตกต่างกันนั้น พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ในกลุ่มดังนี้คือ กลุ่มที่ทำงานผลิตสื่อกับไม่ได้ผลิตสื่อ, กลุ่มที่ได้สอนกับไม่ได้สอน, กลุ่มที่ทำงานบริหารกับไม่ได้ทำงานบริหาร, กลุ่มที่ทำงานวิจัยกับไม่ได้ทำงานวิจัย ส่วนกลุ่มที่ทำงานบริการวิชาการกับไม่ได้ทำงานบริการวิชาการ ไม่พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

Share

COinS