Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
ความเสี่ยงในการสะสมโลหะหนักของผักคะน้า(Brassica oleracea L.var. alboglabra Bailey)และผักกาดหอม(Lactuca sativa var.crispa) เมื่อใช้กากตะกอนจากระบบบำบัดน้ำเสียชุมชนร่วมกับแกลบในพื้นที่การเกษตรจังหวัดปทุมธานี
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
Risk to heavy metal accumulation by chinese kale (Brassica oleracea L.var. alboglabra Bailey) and lettuce (Lactuca sativa var.crispa) treated with sewage sludge and rice husk in Pathum Thani agricultural area
Year (A.D.)
1992
Document Type
Thesis
First Advisor
อรวรรณ ศิริรัตน์พิริยะ
Faculty/College
Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)
Degree Name
วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
วิทยาศาสตร์สภาวะแวดล้อม
DOI
10.58837/CHULA.THE.1992.614
Abstract
การนำกากตะกอนน้ำเสียจากโรงบำบัดน้ำเสียชุมชน กรุงเทพมหานคร (ชุมชนห้วยขวาง) มากำจัดร่วม กับแกลบ โดยนำมาใช้ประโยชน์เสมือนธาตุอาหารพืช ในการเพาะปลูกผักคะน้า เพื่อพิจารณาถึงความเสี่ยง ต่อโลหะหนัก (ตะกั่ว แคดเมียม ทองแดง นิเกิล แมงกานีส สังกะสี เหล็ก) ที่สะสมในส่วนเหนือดินและส่วน ใต้ดินของพืชทั้ง 2 ชนิด ดำเนินการศึกษาวิจัยในภาคสนาม ที่พื้นที่การเกษตรจังหวัดปทุมธานี โดยวางแผน การทดลองแบบ 2 x 4 factorial in - completely randomize สำหรับพืชทั้ง 2 ชนิด พืชแต่ละชนิดจะมีตำ รับทดลอง 7 ตำรับทดลอง (ควบคุม ปุ๋ยเคมี (สูตร 25-7-7 อัตรา 96 กิโลกรัม/ไร่) กากตะกอนอัตรา 3,200 กิโลกรัม/ไร่ กากตะกอนอัตรา 3 ซ้ำ จากการทดลองพบว่า กากตะกอนน้ำเสียมีศักยภาพเพียงพอต่อการนำมาใช้ประโยชน์ในการเป็นแหล่ง ธาตุอาหารพืช การเดินกากตะกอนอัตรา 3,200 กิโลกรัม/ไร่ และการเติมกากตะกอนอัตรา 3,200 กิโลกรัม/ไร่ ร่วมกับแกลบ 320 640 960 และ 1,280 กิโลกรัม/ไร่ ทำให้ผลผลิตของผักคะน้าและผักกาดหอม สูงกว่าค่าเฉลี่ยผลผลิตจากพื้นที่การเกษตรจังหวัดปทุมธานี ทั้งนี้ผลผลิตของผักคะน้า ไม่มีความแตกต่างอย่าง มีนัยสำคัญทางสถิติระหว่างตำรับทดลองทั้งหมด นอกจากนี้แล้วการเติมกากตะกอนร่วมกับแกลบทุกอัตราก็ ไม่มีผลทำให้ผลผลิตผักคะน้าแตกต่างกับการเติมกากตะกอนเพียงอย่างเดียว สำหรับผักกาดหอมนั้นผลผลิต ผักกาดหอมมีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระหว่างตำรับทดลอง โดยการเติมกากตะกอนร่วมกับแกลบอัตราต่าง ๆ มีผลทำให้ผลผลิตผักกาดหอมลดลงกว่าการเติมกากตะกอนการลดลงของผลผลิตนี้จะลด ลงตามอัตราการเติมแกลบที่เพิ่มขึ้นจึงกล่าวได้ว่า การเติมแกลบลงไปร่วมกับกากตะกอนนั้น ไม่มีผลต่อการ เพิ่มผลผลิตพืชทั้ง 2 ชนิดให้สูงกว่าการเติมกากตะกอนเพียงอย่างเดียว การสะสมโลหะหนักของผักคะน้าและผักกาดหอม พบว่าผักกาดหอมมีแนวโน้มการสะสมโลหะหนักทั้ง 7 ธาตุที่ตรวจพบสูงกว่าผักคะน้า การเติมแกลบที่อัตราเติมทั้ง 4 อัตราร่วมกับกากตะกอนนั้น เมื่อเปรียบเทียบ กับการเติมเฉพาะกากตะกอนแล้ว ไม่พบความแตกต่างของการสะสมโลหะหนักในส่วนเหนือดินและส่วนใต้ดินของพืชทั้ง 2 ชนิดได้เด่นชัด อย่างไรก็ตามโลหะหนักทุกธาตุที่ตรวจพบ ก็อยู่ในระดับที่ยอมรับให้มีได้ทั่ว ไปในพืช อีกทั้งไม่เป็นอันตรายต่อการบริโภคเมื่อเทียบกับปริมาณที่ยอมรับให้ปนเปื้อนในอาหารและบริโภคได้ สูงสุดในแต่ละวันของ FAO/WHO ส่วนตะกั่ว แคดเมียม และนิเกิลนั้น ตรวจไม่พบในทุกส่วนของพืชทั้ง 2 ชนิด
Creative Commons License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
ภาคย์ทองสุข, คมกฤช, "ความเสี่ยงในการสะสมโลหะหนักของผักคะน้า(Brassica oleracea L.var. alboglabra Bailey)และผักกาดหอม(Lactuca sativa var.crispa) เมื่อใช้กากตะกอนจากระบบบำบัดน้ำเสียชุมชนร่วมกับแกลบในพื้นที่การเกษตรจังหวัดปทุมธานี" (1992). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 36351.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/36351