Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ระดับฮอร์โมนโปรแลคตินในผู้ป่วยโรคลูปุส

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Prolactin level in patients with Systemic Lupus Erythematosus

Year (A.D.)

1997

Document Type

Thesis

First Advisor

อุทิศ ดีสมโชค

Second Advisor

สมพงษ์ สุวรรณวลัยกร

Third Advisor

นิมิต เตชไกรชนะ

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

อายุรศาสตร์

DOI

10.58837/CHULA.THE.1997.850

Abstract

วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาระดับฮอร์โมนโปรแลคตินในผู้หญิงไทยที่ป่วยเป็นโรคลูปุสและผู้หญิงไทยปรกติ และศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างระดับฮอร์โมนโปรแลคตินในผู้หญิงไทยที่ป่วยเป็นโรคลูปุสกับระดับการกำเริบของโรค และกลุ่มอาการทางคลินิกต่างๆ วิธีดำเนินการ: เจาะเลือดผู้ป่วยโรคลูปุสเพศหญิงและคนปรกติ ที่มีตัวแปรอายุและประจำเดือนใกล้เคียงกัน ในช่วงไม่เกิน 4 วันแรกของการมีประจำเดือน มาตรวจหาระดับฮอร์โมนโปรแลคตินโดยวิธี Fluorimmunoassay (FIA) ผู้ป่วยโรคลูปุสจะได้รับการตรวจประเมินลักษณะทางคลินิกและระดับการกำเริบของโรคในช่วงที่เจาะเลือด ผลการศึกษา: ได้กลุ่มโรคลูปุสและกลุ่มควบคุม กลุ่มละ 42 คน ซึ่งสามารถนำมาจับคู่กันได้ทั้งหมด 39 คู่ ค่าเฉลี่ยของระดับฮอร์โมนโปรแลคตินในกลุ่มโรคลูปุสเท่ากับ 372.2+_256.3 mIU/L และกลุ่มควบคุมเท่ากับ 351.3+_225.8 mIU/L ซึ่งไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ (p>0.05) ส่วนในกลุ่มโรคลูปุสเองมี the Systemic Lupus Erythematosus Activity Measure (SLAM) score เฉลี่ย 4.36+_3.89 คะแนน พบผู้ป่วยที่มีอาการของระบบเยื่อบุและผิวหนังร้อยละ 16.7 มีอาการของข้ออักเสบร้อยละ 38.1 มีอาการไตอักเสบร้อยละ 33.3 และมีอาการลูปุสของระบบประสาทร้อยละ 7.1 ในการศึกษานี้พบว่าไม่มีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระหว่าง SLAM score หรือตัวแปรทางคลินิกกับระดับฮอร์โมนโปรแลคติน ระดับฮอร์โมนโปรแลคตินในแต่ละกลุ่มผู้ป่วยที่มีและไม่มีอาการทางคลินิกต่างๆ ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ ลักษณะทางคลินิกของกลุ่มผู้ป่วยที่มีระดับฮอร์โมนโปรแลคตินสูง (Hyperprolactinemia) และระดับปรกติ (normoprolactinemia) ไม่แตกต่างกัน (p>0.05) สรุป: ระดับฮอร์โมนโปรแลคตินในผู่ป่วยสตรีโรคลูปุสไม่ต่างจากระดับฮอร์โมนในสตรีปรกติที่ศึกษาและมีแนวโน้มว่าระดับฮอร์โมนโปรแลคตินในผู้ป่วยสตรีโรคลูปุสไม่สัมพันธ์ระดับ

Other Abstract (Other language abstract of ETD)

Objective: To determine the serum prolactin level in female patients with Systemic Lupus Erythematosus (SLE) compared to normal controls and to study the correlation of serum prolactin level with clinical activity and clinical syndromes or parameters of SLE. Method: The fasting sera collected within the first four days of menstruation from SLE subjects and controls that matched for age and menstrual pattern were analysed for prolactin by fluoroimmunoassay (FLA) technique. Disease activity and clinical syndromes of SLE subjects were evaluated by using the Systemic Lupus Activity Measure (SLAM) and other clinical parameters. Results: Of all 42 subjects obtained in each group, 39 pairs were matched. The mean prolactin level in SLE subjects was 372.2+_256.3 mIU/L and the controls was 351.3+_225.8 mIU/L which was not significantly different (p = 0.700 by paired t-test). The mean SLAM score was 4.36+_3.89 in SLE subjects. Mucocutaneous involvement was found in 16.7%, arthritis 38.1%, renal involvement 33.3% and neuropsychiatric lupus 7.1%. No statistically significant correlations of serum prolactin level with either SLAM score or each clinical syndrome was detected. Mean prolactin level of the patients who had any clinical symdrome was not significantly different from that of the patients who had not. Clinical parameters in hyperprolactinemic patients were not different from normoprolactinemic group (p>0.05). Conclusion: The prolactin level in Thai female patients with SLE was not different from the controls. No correlation between prolactin level and disease activity or clinical parameters was found.

Link to Full Text

Share

COinS