Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การเปรียบเทียบความสามารถพื้นฐานและความสนใจทางช่างกลของนักเรียนช่างอุตสาหกรรม ในเขตกรุงเทพมหานคร

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

A comparison of basic mechanical abilities and interest of industrial vocational students in Bangkok Metropolis

Year (A.D.)

1983

Document Type

Thesis

First Advisor

ชุมพร ยงกิตติกุล

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

ครุศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

DOI

10.58837/CHULA.THE.1983.33

Abstract

การวิจัยครั้งมีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบความสามารถพื้นฐานทางด้านช่างกล และความสนใจทางช่างกลขอนักเรียนช่างอุตสาหกรรมในเขตกรุงเทพมหานคร และสร้างสมการทำนายผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนช่างอุตสาหกรรมโดยใช้ความสามารถพื้นฐานทางด้านช่างกล และความสนใจทางช่างกลเป็นตัวทำนาย พร้อกับสร้างตารางเกณฑ์ปกติของคะแนนจากแบบทดสอบความสามารถพื้นฐานทางด้านช่างกล และความสนใจทางช่างกลด้วย กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนช่างอุตสาหกรรมในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 4, 5 และ 6 ปีการศึกษา 2524 จำนวน 1,159 ร สุ่มตัวอย่างจากวิทยาลัยช่างอุตสาหกรรมในเขตกรุงเทพมหานคร 6 แห่ง ได้แก่ วิทยาลัยเทคนิคดอนเมือง วิทยาลับเทคนิคดุสิต วิทยาลับเทคนิคราชสิทธาราม วิทยาลัยเทคนิคมีนบุรี วิทยาลัยช่างกลปทุมวัน และวิทยาลัยเทคโนโลยีอุตสาหกรรม เครื่องมือที่ใช้ปรักอบด้วยแบบทดสอบความสามารถพื้นฐานทางช่างกล จำนวน 3 ฉบับ คือ แบบทอสอบทักษะโมเตอร์ แบบทดสอบความเข้าใจเหตุผลเชิงกล และแบบทดสอบมิติสัมพันธ์ และแบบสำรวจความสนใจทางช่างกล อีก 1 ฉบับ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการวิเคราะห์ความแปรปรวนสองทาง และการวิเคราะห์ถดถอยพหุคุณ ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้ 1.นักเรียนช่างอุตสาหกรรมที่เรียนนะดับชั้นเดียวกัน แต่สาขาวิชาต่างกันมีความสามารถพื้นฐานทางด้านช่างกล ไม่แตกต่างกันที่รับนัยสำคัญที่.01 นอกจากนักเรียนช่างอุตสาหกรรมสาขาวิชาช่างไฟฟ้า ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 5 ทีมีคะแนนความสามารถด้านมิติสัมพันธ์สูงกว่านักเรียนสาชาวิชาช่างเชื่อมอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ.01 2.นักเรียนช่างอุตสาหกรรมที่เรียนในสาขาวิชาเดียวกัน แต่ระดับชั้นต่างกันมีความสามารถพื้นฐานทางด้านช่างกลไม่แตกต่างกัน ที่ระดับนัยสำคัญ.01 นอกจากนักเรียนช่างอุตสาหกรรมสาขาไฟฟ้าระดับมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีคะแนนความสามารถด้านทักษะโมเตอร์ และมิติสัมพันธ์ ต่ำกว่านักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 5 อย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .01 3.นักเรียนช่างอุตสาหกรรมที่เรียนในระดับชั้นเดียวกัน แต่สาขาวิชาต่างกัน มีความสนใจทางช่างกลไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ.01 4.นักเรียนช่างอุตสาหกรรมที่เรียนสาขาวิชาเดียวกัน แต่ระดับชั้นต่างกันมีความสนใจทางช่างไม่แตกต่างกัน ที่ระดับนัยสำคัญ.01 5.คะแนนจากแบบทดสอบความสามารถพื้นฐานทางด้านช่างกลและแบบสำรวจความสนใจทางช่างกลมีประสิทธิภาพในการทำนายผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนช่างอุตสาหกรรมในแต่ละระดับชั้นเรียนค่อนข้างต่ำ กล่าวคือสามารถทำนายผลการเรียนได้ตั้งแต่ร้อยละ 3.40 ถึง 32.19

Share

COinS