Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
Year (A.D.)
2023
Document Type
Independent Study
First Advisor
ศุภศิษฏ์ ทวีแจ่มทรัพย์
Faculty/College
Faculty of Law (คณะนิติศาสตร์)
Degree Name
ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
กฎหมายเศรษฐกิจ
DOI
10.58837/CHULA.IS.2023.148
Abstract
ปัจจุบันคนต่างด้าว เดินทางมาทำงานในแผ่นดินประเทศไทยโดยใช้กำลังกายความรู้ความสามารถเพื่อประสงค์ผลตอบแทนเป็นค่าจ้างหรือประโยชน์อื่นใด ซึ่งมีบริบทสำคัญที่จะทำให้ผู้ประกอบการประสบความสำเร็จในการประกอบกิจการในหลายกิจการ ทั้งนี้มีสาเหตุจากงานประเภท 3D ได้แก่ งานหนัก (Difficult) งานสกปรก (Dirty) และงานอันตราย (Dangerous) ซึ่งแรงงานไทยไม่นิยมทำ แต่เป็นที่งานหลักของหลาย ๆ สถานประกอบกิจการซึ่งเป็นอุตสาหกรรมพื้นฐาน หากอุตสาหกรรมพื้นฐานเกิดปัญหาจะทำให้อุตสาหกรรมส่วนกลางกับอุตสาหกรรมหลักก็จะเกิดผลกระทบไปด้วย ดังนั้นความต้องการของผู้ประกอบการที่ต้องการแรงงานต่างด้าวไร้ฝีมือ เนื่องจากแรงงานต่างด้าวไร้ฝีมือคือแรงงานระดับล่างซึ่งไม่จำเป็นต้องมีความรู้ความชำนาญ และทักษะฝีมือ เพียงแต่ทำงานตามคำชี้แนะหรือรูปแบบที่จัดไว้ได้เท่านั้น มีความคุ้มค่าจากค่าแรง และไม่มีปัญหาเหมือนแรงงานไทยที่จะเรียกร้องสิ่งต่าง ๆ กับผู้ประกอบการจึงเป็นที่มาว่าแรงงานต่างด้าวไร้ฝีมือมีความจำเป็นแต่ทั้งนี้ประเด็นดังกล่าวต้องสอดคล้องกับเรื่องของตลาดแรงงาน เพราะปัจจุบันนโยบายแรงงานมุ่งเน้นให้เกิดการพัฒนาแรงงานเพื่อเป็นไปตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติฉบับที่ 1 จนถึงปัจจุบันฉบับที่ 13 ประกอบกับปัจจุบันมีแผนปฏิรูปประเทศ และแผนยุทธศาสตร์ชาติ ผลการศึกษา พบว่าในปัจจุบันการนำแรงงานต่างด้าวไร้ฝีมือมีวิธีการนำเข้าด้วยกัน 3 แบบวิธี ซึ่งในแต่ละแบบวิธีเกิดในช่วงในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน โดยแบบที่ 1 แบบดั้งเดิมคือการขอวีซ่าเข้ามาทำงานในประเทศ แบบที่ 2 คือการนำเข้ามาผ่านบันทึกความเข้าใจระหว่างประเทศ (MOU) และแบบที่ 3 คือบัตรแรงงานต่างด้าวนำแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบเข้ามาในประเทศมาขึ้นทะเบียนเพื่อพิสูจน์สัญชาติ และออกบัตรดังกล่าวให้ การนำเข้ามาผ่านบันทึกความเข้าใจระหว่างประเทศ (MOU) เป็นวิธีที่ภาครัฐสนับสนุนเพื่อลดปัญหาด้านอาชญากรรม ด้านความสงบ ด้านสิทธิมนุษยชน และการขาดแคลนแรงงานภายในประเทศ ข้อเสนอแนะโดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรมีการประชาสัมพันธ์การนำเข้าแรงงานต่างด้าวไร้ฝีมือผ่าน MOU ให้ ผู้ประกอบการ โดยผ่านช่องทางออนไลน์ซึ่งมีข้อมูลจาการจดทะเบียนบริษัท หรือข้อมูลผู้เสียภาษี โดยจัดทำคู่มือการขออนุญาตนำเข้าแรงงานต่างด้าว เพื่อให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. 2558 ประกอบกับพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 และที่แก้ไขเพิ่ม ทั้งนี้เพื่อเป็นการเพิ่มแรงจูงใจให้สถานประกอบกิจการให้เลือกใช้การนำเข้าแรงงานต่างด้าวไร้ฝีมือผ่าน MOU มีการลดค่าธรรมเนียมในการนำเข้าลดค่าธรรมเนียมการตีวีซ่า และค่าธรรมเนียมต่อวีซ่าสำหรับแรงงานต่างด้าวไร้ฝีมือที่นำเข้าผ่าน MOU โดยขยายระยะเวลาการลดค่าธรรมเนียม และการลดขั้นตอนในการยื่นขออนุญาตนำเข้าแรงงานต่างด้วยโดยวิธี MOU ทั้งนี้ผู้เขียนมีความเชื่อมั่นว่าหากในประเด็นดังกล่าวได้รับการแก้ไขแล้ว สถานประกอบกิจการย่อมเลือกวิธีการนำเข้าแรงงานต่างด้าวไร้ฝีมือผ่าน MOU ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงสุด
Creative Commons License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
เรืองถาวรนันท์, ธีรภัทร, "การนำเข้าแรงงานต่างด้าวไร้ฝีมือโดยวิธี MOU : มาตรการในการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวที่มีประสิทธิภาพและเพื่อการพัฒนาให้สนองต่อการปฏิรูปประเทศกรณีศึกษาประเทศที่ทำ MOU" (2023). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 13104.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/13104