Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

Year (A.D.)

2024

Document Type

Independent Study

First Advisor

ปิติ เอี่ยมจำรูญลาภ

Faculty/College

Faculty of Law (คณะนิติศาสตร์)

Degree Name

ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

กฎหมายเศรษฐกิจ

DOI

10.58837/CHULA.IS.2024.180

Abstract

เอกัตศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษากฎหมายว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจโรงแรมไทย โดยศึกษาผลกระทบเชิงบวกและผลกระทบเชิงลบให้กับกลุ่มผู้ประกอบการโรงแรมผู้มีส่วนได้เสียต่อสิ่งแวดล้อม สังคม ชุมชนและเศรษฐกิจภายในประเทศ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดขึ้นก็ส่งผลกระทบมหาศาลต่อธุรกิจในอุตสาหกรรมบริการ สภาพอากาศและความหลากหลายทางชีวภาพ ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรที่โรงแรมต้องใช้ในการดำเนินธุรกิจ ตั้งแต่วัสดุก่อสร้างไปจนถึงวัตถุดิบอาหาร ตลอดจนพลังงานและต้นทุน operation การดำเนินกิจการ และการเติบโตของอุตสาหกรรมทั้งหมดประเทศไทยคือจุดหมายปลายทางสำหรับการท่องเที่ยวชั้นนำของโลกที่มีธรรมชาติ วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ที่เป็นเอกลักษณ์ การบริการต้อนรับ และทำเลที่เหมาะสมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในปี พ.ศ.2560 ประเทศไทยได้รับความนิยมเป็นอันดับ 10 ของโลก และมีรายได้จากกิจกรรมการท่องเที่ยวมากเป็นอันดับ 4 ในปี พ.ศ.2561 ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยว 38.27 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.5 จากปี พ.ศ.2560 ในปี พ.ศ. 2559 รายได้จากการท่องเที่ยวคิดเป็นร้อยละ 17.7 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ นอกจากนี้ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวยังเป็นแหล่งงานมากกว่า 4.2 ล้านงาน หรือร้อยละ 11 ของการจ้างงานในประเทศทั้งหมดจากการศึกษาพบว่า ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยยังขาดความตระหนักรู้ในการเตรียมความพร้อมกับกฎหมายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่จะเข้ามามีบทบาท ทั้งกฎเกณฑ์ ข้อบังคับ และข้อกำหนด ในการรายงานการจัดทำบัญชีก๊าซเรือนกระจก ขอบเขตกิจกรรมการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและประเภทก๊าซที่นำมาประเมินการปล่อย การตรวจวัดปริมาณการปล่อย การทวนสอบรายงานปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และการนำส่งรายงานก๊าซเรือนกระจก กฎหมายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศไม่ได้เป็นการปิดโอกาสธุรกิจรายเล็กในประเทศไทย หรือผู้ประกอบการในระดับ SMEs แต่จะเปิดโอกาสให้ธุรกิจไทยปรับตัวสู่ความยั่งยืน และก้าวสู่ตลาดโลกได้อย่างแข็งแกร่ง พร้อมรับมือกับความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมในอนาคตแม้ว่ากฎหมายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะเป็นการเพิ่มต้นทุนในการดำเนินงานให้กับผู้ประกอบการ ทั้งค่าใช้จ่ายในส่วนที่เกี่ยวกับการซื้อขายสิทธิในการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และการจัดเก็บภาษีคาร์บอนตามกฎหมาย ดังนั้น จึงเห็นควรให้รัฐ กำหนดเพดานการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกภาพรวมขององค์กรที่ถูกควบคุมทั้งหมด เพื่อช่วยให้องค์กรอุตสาหกรรม และธุรกิจสามารถวางแผนการลงทุนได้อย่างเหมาะสมในระยะยาว

Share

COinS
 
 

To view the content in your browser, please download Adobe Reader or, alternately,
you may Download the file to your hard drive.

NOTE: The latest versions of Adobe Reader do not support viewing PDF files within Firefox on Mac OS and if you are using a modern (Intel) Mac, there is no official plugin for viewing PDF files within the browser window.