Abstract
เหตุผลของการทำวิจัย : เมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุจะมีการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาที่หลีกเลี่ยงไม่ได้และมีความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยทั้งแบบเฉียบพลันและเรื้อรังเพิ่มขึ้นผู้วิจัยมีความสนใจศึกษาการออกกำลังกายด้วยรำเซิ้งอีสานแบบดั้งเดิม เนื่องจากเป็นรูปแบบการออกกำลังกายที่ประยุกต์มาจากประเพณีดั้งเดิมตามวิถีชีวิตของท้องถิ่น ซึ่งยังไม่เคยมีผู้ใดศึกษามาก่อนน่าจะเป็นรูปแบบการออกกำลังกายแบบแอโรบิกได้ เนื่องจากมีระยะเวลาการออกกำลังกายแบบต่อเนื่อง มีความหนักปานกลาง และคาดว่าน่าจะสามารถเพิ่มสมรรถภาพทางกายในผู้สูงอายุได้วัตถุประสงค์ : เพื่อศึกษาผลของการรำเซิ้งอีสานดั้งเดิมต่อสมรรถภาพทางกายในผู้สูงอายุชาวไทยวิธีทำการวิจัย : การศึกษานี้เป็นการศึกษาแบบนำร่อง โดยอาสาสมัครเป็นผู้สูงอายุที่สามารถเดินได้เองโดยไม่ต้องใช้เครื่องช่วยเดินและสามารถประกอบกิจวัตรประจำวันได้ด้วยตนเอง ทั้งเพศชายและหญิง จำนวน 20 รายอายุเฉลี่ย 68.3 ± 4.8 ปี แบ่งเป็นกลุ่มควบคุม 10 ราย และกลุ่มรำเซิ้งอีสานดั้งเดิม 10 ราย จากนั้นอาสาสมัครทุกคนได้รับการสัมภาษณ์เกี่ยวกับข้อมูลพื้นฐาน และทำการวัดข้อมูลพื้นฐาน หลังจากนั้นทำการทดสอบด้วยการเดิน 6 นาที (six minute walk test: 6MWT)การทดสอบการลุกนั่ง 5 ครั้ง (Five time sit to stand test: FTSS)การวัดความยืดหยุ่นของร่างกาย (sit and reach test: SRT)แบบประเมินการทรงตัวของ Berg Balance scale (BBS) การทดสอบการลุกเดินจากเก้าอี้ไป-กลับ (time up and go test: TUGT) ส่วนกลุ่มควบคุมได้รับเฉพาะคำแนะนำในการปฏิบัติตัวในชีวิตประจำวันที่ถูกต้องทั่วไป หลังจากครบ 12 สัปดาห์ ทั้งสองกลุ่มได้รับการตรวจประเมินสมรรถภาพทางกายซ้ำอีกรอบ เพื่อนำข้อมูลที่ได้ไปวิเคราะห์และสรุปผลผลการศึกษา : จากการศึกษาพบว่าค่าของข้อมูลพื้นฐานของทั้งสองกลุ่มไม่แตกต่างกัน และเมื่อเปรียบเทียบระหว่างกลุ่มพบว่าทั้ง 2 กลุ่มมีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญของค่าการทดสอบในทุกตัวแปรสรุป : การออกกำลังกายด้วยรำเซิ้งอีสานดั้งเดิมสามารถเพิ่มสมรรถภาพทางกายในผู้สูงอายุได้.
DOI
10.58837/CHULA.CMJ.62.2.7
First Page
211
Last Page
222
Recommended Citation
ศรีรักษา, ชัยพัฒน์; นาคมะเริง, เสาวนีย์; ยงฤทธิปกรณ์, พลลพัฏฐ์; ศิริธราธิวัตร, วัณทนา; สวรรยาวิสุทธิ์, กิตติศักดิ์; and จรรยาเจริญ, ทวีศักดิ์
(2018)
"ผลของการรำเซิ้งอีสานต่อสมรรถภาพทางกายในผู้สูงอายุชาวไทย:การศึกษานำร่อง,"
Chulalongkorn Medical Journal: Vol. 62:
Iss.
2, Article 9.
DOI: https://doi.org/10.58837/CHULA.CMJ.62.2.7
Available at:
https://digital.car.chula.ac.th/clmjournal/vol62/iss2/9