Abstract
เหตุผลของการทำวิจัย : ความภาคภูมิใจในตนเอง และแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์มีส่วนเกี่ยวเนื่องในการพัฒนาวัยรุ่น ซึ่งถ้าหากวัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวเป็นบุคคลที่มีความภาค ภูมิใจในตนเองที่ดีและมีแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ที่ดี ซึ่งส่งผลให้เด็กมีคุณภาพในการใช้ชีวิตที่ดี และมีสุขภาพจิตที่ดีวัตถุประสงค์ : เพื่อศึกษาเปรียบเทียบความภาคภูมิใจในตนเอง และแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ รวมถึงศึกษาปัจจัยที่มีความเกี่ยวข้องระหว่างนักศึกษาสายอาชีพ และนักเรียนสายสามัญรูปแบบการวิจัย : การวิจัยเชิงพรรณนาภาคตัดขวาง ณ จุดเวลาใดเวลาหนึ่งสถานที่ทำการศึกษา : วิทยาลัยอาชีวศึกษาสันติราษฎร์ ในพระอุปถัมภ์ฯ และโรงเรียนหอวังตัวอย่างและวิธีการศึกษา : ประชากรกลุ่มตัวอย่าง คือ นักศึกษาจากระดับชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพ หรือ ปวช. ทุกสาขาวิชาในวิทยาลัยอาชีวศึกษาสันติราษฎร์ในพระอุปถัมภ์ฯ และนักเรียนที่กำลังศึกษาระดับชั้นมัธยมตอนปลายที่โรงเรียนหอวัง ประจำปีการศึกษา 2557 ที่มีอายุระหว่าง 16 -18 ปีกลุ่มละ 60 คน รวมทั้งสิ้น 120 คน โดยวิธีการสุ่มกลุ่มตัวอย่างแบบง่ายประเมิน โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บ ประกอบด้วย 1)แบบสอบถามเกี่ยวกับข้อมูลพื้นฐาน 2) แบบสอบถามความภาคภูมิใจในตนเอง 3) แบบสอบถามการแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ และวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ Independent t-test, One-way ANOVA และLeast SignificantDifference (LSD)ผลการศึกษา : พบว่านักเรียนสายสามัญมีระดับความภาคภูมิใจในตนเองอยู่น้อยกว่านักศึกษาสายอาชีพ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ (p <0.05)นักเรียนสายสามัญ ที่มีเพศแตกต่างกันมีระดับความภาคภูมิใจในตนเองต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ (p <0.05) นักศึกษาสายอาชีพ และนักเรียนสายสามัญส่วนใหญ่มีแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์อยู่ในระดับมาก (ร้อยละ 70.00 และ 76.67 ตามลำดับ) หากใช้เกณฑ์ค่าเฉลี่ยในการแปลผล พบว่าทั้ง 2 กลุ่ม มีแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์อยู่ในระดับมาก (= 58.12 และ 57.33 ตามลำดับ) นักศึกษาสายอาชีพที่มีอาชีพของผู้ปกครองแตกต่างกันมีระดับแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติที่ระดับ (p <0.05)สรุป : ระดับความภาคภูมิใจในตนเองทั้งสองรูปแบบการศึกษานั้นต่างกันและพบว่าปัจจัยเรื่องเพศมีผลต่อระดับความภาคภูมิใจในตนเองในส่วนของแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ทั้งสองรูปแบบการศึกษาอยู่ในระดับปานกลางที่ไม่แตกต่างกัน และพบว่าปัจจัยเรื่องของอาชีพผู้ปกครองของนักศึกษาสายอาชีพมีผลต่อระดับแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ ซึ่งการทราบถึงปัจจัยและผลการศึกษาเหล่านี้จะช่วยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนั้นเข้าใจในตัวเด็กวัยรุ่นมากขึ้น และนำมาปรับใช้ในการพัฒนาเด็กวัยรุ่นให้เป็นบุคลากรที่ดีมีคุณภาพเพื่อพัฒนาสังคมในอนาคตต่อไป.
DOI
10.58837/CHULA.CMJ.60.2.9
First Page
231
Last Page
246
Recommended Citation
สารทอง, กฤษฎา and ทิพยรัตน์เสถียร, ณัทธร
(2016)
"การศึกษาเปรียบเทียบความภาคภูมิใจในตนเอง และแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ระหว่างในนักศึกษาสายอาชีพและนักเรียนสายสามัญ,"
Chulalongkorn Medical Journal: Vol. 60:
Iss.
2, Article 9.
DOI: https://doi.org/10.58837/CHULA.CMJ.60.2.9
Available at:
https://digital.car.chula.ac.th/clmjournal/vol60/iss2/9