•  
  •  
 
Chulalongkorn Medical Journal

Abstract

เหตุผลของการทำวิจัย : เพื่อพัฒนาโปรแกรมทางการพยาบาลในการส่งเสริมให้ผู้ป่วยโรคต้อหินมีความร่วมมือในการรักษา ได้แก่ การใช้ยาหยอดตา และการมาตรวจตามนัดอย่างสม่ำเสมอตามแผนการรักษา เพื่อลดอัตราเสี่ยงของผู้ป่วยโรคต้อหินต่อการสูญเสียสายตาอย่างถาวรวัตถุประสงค์ : เพื่อศึกษาเปรียบเทียบความร่วมมือในการรักษาของผู้ป่วยโรคต้อหินก่อนและหลังได้รับโปรแกรมการให้ข้อมูลตามแนวคิดแบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพรูปแบบการวิจัย : การวิจัยกึ่งทดลอง แบบสองกลุ่มวัดก่อนและหลังการทดลองสถานที่ทำการศึกษา : แผนกผู้ป่วยนอกจักษุกรรม โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทยวิธีการศึกษา : ศึกษาในผู้ป่วยโรคต้อหินวัยผู้ใหญ่ ที่เข้ารับการรักษาที่แผนกผู้ป่วยนอกจักษุกรรม โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย จำนวน 50 คนแบ่งเป็นกลุ่มควบคุม และกลุ่มทดลอง กลุ่มละ 25 คน จับคู่กลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุมให้มีความคล้ายคลึงกันในเรื่อง เพศ อายุ ระดับการศึกษาระยะเวลาของการเป็นโรคต้อหินและจำนวนของยาหยอดตาโรคต้อหินกลุ่มควบคุมได้รับการพยาบาลปกติ กลุ่มทดลองได้รับโปรแกรมการให้ข้อมูลตามแนวคิดแบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพ เครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง คือ โปรแกรมการให้ข้อมูลตามแนวคิดแบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพ ประกอบด้วย 4 ขั้นตอน คือ ประเมินความพร้อม การให้ข้อมูลการพัฒนาทักษะ การติดตามและกระตุ้นเตือน หลังได้รับโปรแกรม4 สัปดาห์ ประเมินความร่วมมือซ้ำ โดยเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบประเมินความร่วมมือในการรักษา ซึ่งมีข้อคำถาม 15 ข้อได้ค่าดัชนีความตรงตามเนื้อหา เท่ากับ .93 และค่าความเที่ยงเท่ากับ0.78 วิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้สถิติบรรยายและการทดสอบค่าทีผลการศึกษา : พบว่าความร่วมมือในการรักษาของผู้ป่วยโรคต้อหินกลุ่มที่เข้าร่วมโปรแกรมการให้ข้อมูลตามแนวคิดแบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพสูงกว่าก่อนเข้าร่วมโปรแกรมการให้ข้อมูลตามแนวคิดแบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p <.05) และความร่วมมือในการรักษาของผู้ป่วยโรคต้อหินกลุ่มที่เข้าร่วมโปรแกรมการให้ข้อมูลตามแนวคิดแบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพ สูงกว่ากลุ่มที่ได้รับการพยาบาลปกติ(p <.05)สรุป : โปรแกรมการให้ข้อมูลตามแนวคิดแบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพสามารถช่วยให้ผู้ป่วยโรคต้อหินมีความร่วมมือในการรักษาเพิ่มขึ้น ดังนั้นพยาบาลผู้ดูแลผู้ป่วยโรคต้อหินสามารถนำโปรแกรมนี้ไปประยุกต์ใช้กับผู้ป่วยโรคต้อหินเพื่อส่งเสริมความร่วมมือในการรักษา.

Publisher

Faculty of Medicine, Chulalongkorn University

First Page

169

Last Page

184

Share

COinS