•  
  •  
 
Chulalongkorn Medical Journal

Abstract

โรคตับคั่งไขมันและเบาหวานพบร่วมกันได้บ่อย โดยอาจแบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ กลุ่มโรคตับคั่งไขมันที่ยังไม่มีโรคเบาหวานตั้งแต่แรกพบว่ามีโอกาสเกิดโรคเบาหวานใหม่ได้มากกว่ากลุ่มคนที่ไม่มีโรคตับคั่งไขมันสูงถึง 3 เท่า ส่วนกลุ่มที่สอง คือ กลุ่มที่มีทั้งโรคตับคั่งไขมันและเบาหวาน กลุ่มนี้จะมีโอกาสเกิดภาวะพังผืดในตับและมีโอกาสเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบหรือ coronary artery disease(CAD) ได้มากกว่าผู้ป่วยโรคตับคั่งไขมันที่ไม่มีเบาหวาน อย่างไรก็ตามการรักษายังทำได้โดยมุ่งรักษาภาวะอ้วน ไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง และเบาหวานที่พบร่วมให้ดี รวมทั้งมุ่งเน้นการการยืนยันวินิจฉัยโรคตับคั่งไขมันและประเมินความรุนแรงโรคตับว่ามีพังผืดหรือไม่โดยการประเมินความรุนแรงของการอักเสบของตับในระบบการให้คะแนนจากข้อมูลทางคลินิกหรือ ระบบ scoring system โดยมี 2ระบบที่ใช้กันบ่อยคือ “NAFLD Fibrosis Score” หรือการให้คะแนนคำนวณจากค่าตัวแปร 6 ตัวได้แก่อายุ ดัชนีมวลกาย ค่าการทำงานตับที่ใช้อัตราส่วนเอนไซม์ตับ AST/ALT, ภาวะเบาหวาน จำนวนเกล็ดเลือด และค่าอัลบูมิน และระบบที่สองคือ BARD score ประกอบด้วยค่าอัตราส่วนค่าการทำงานตับ (AST/ALT ratio) โรคเบาหวาน และค่าดัชนีมวลกาย ซึ่งทั้ง 2 ระบบจะช่วยวางแผนการรักษาโดยคัดกลุ่มเสี่ยงต่อการเกิดพังผืดในตับออกมาได้ และแพทย์ต้องแนะนำให้ปรับวิถีชีวิตโดยต้องตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนด้วยการควบคุมอาหาร การออกกำลังกายและต้องลงมือทำอย่างจริงจัง และตั้งเป้าหมายลดน้ำหนักประมาณร้อยละ 10 ในช่วงแรก และตั้งต้นใหม่เสมอหากทำไม่ได้ในครั้งแรกส่วนยาแผนปัจจุบันที่ใช้รักษามีไม่มากนัก และควรเลี่ยงการใช้ยาสมุนไพรหรืออาหารเสริมที่ไม่จำเป็นรวมทั้งงดแอลกอฮอล์ด้วย.

DOI

10.58837/CHULA.CMJ.57.3.1

First Page

269

Last Page

277

Share

COinS
 
 

To view the content in your browser, please download Adobe Reader or, alternately,
you may Download the file to your hard drive.

NOTE: The latest versions of Adobe Reader do not support viewing PDF files within Firefox on Mac OS and if you are using a modern (Intel) Mac, there is no official plugin for viewing PDF files within the browser window.