Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
Year (A.D.)
2020
Document Type
Independent Study
First Advisor
ปิยะบุตร บุญอร่ามเรือง
Faculty/College
Faculty of Law (คณะนิติศาสตร์)
Degree Name
นิติศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
กฎหมายการเงินและภาษีอากร
DOI
10.58837/CHULA.IS.2020.171
Abstract
แบบแสดงรายการภาษีของกรมสรรพากรมีลักษณะใช้ร่วมกันสําหรับเงินได้พึงประเมินทุกประเภท ส่งผลให้กรมสรรพากรจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของผู้มีเงินได้หลายรายการ ซึ่งทําให้มีประเด็นปัญหาว่า การจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของกรมสรรพากรเป็นไปตามหลักการประมวลผลข้อมูลเท่าที่จําเป็นแห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หรือไม่ ด้วยเหตุนี้ผู้วิจัยจึงศึกษารายการข้อมูลส่วนบุคคลในแบบแสดงรายการภาษีของกรมสรรพากรโดยพิจารณาตามหลักการประมวลผลข้อมูลเท่าที่จําเป็นในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของกรมสรรพากร โดยการเทียบเคียงแบบแสดงรายการภาษีของต่างประเทศ พบว่าแบบแสดงรายการภาษีของประเทศไทยมีลักษณะการใช้ร่วมกันสําหรับทุกประเภทเงินได้ การจัดเก็บข้อมูลจึงไม่มีความเฉพาะเจาะจงสําหรับเงินได้แต่ละประเภท มีการจัดเก็บข้อมูลบางรายการซ้ำากันหลายครั้งทำให้การจัดเก็บข้อมูลเกิดความซ้ําซ้อน และมีการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลมากเกินความจําเป็นเนื่องจากข้อมูลบางรายการที่ไม่มีความเกี่ยวข้องต่อการใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดเก็บภาษีจึงเห็นว่าการปรับเปลี่ยนแบบแสดงรายการภาษีโดยการแยกออกตามประเภทของเงินได้พึงประเมิน เพื่อให้การจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลมีความเฉพาะเจาะจง และจัดเก็บข้อมูลเป็นไปตามวัตถุประสงค์ในการจัดเก็บภาษีจากเงินได้แต่ละประเภท ส่งผลให้ข้อมูลที่จัดเก็บนั้นไม่ซ้ำซ้อนและไม่มากเกินกว่าความจําเป็นตามหลักการประมวลผลข้อมูลเท่าที่จําเป็น
Creative Commons License
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
ทองประเสริฐ, นิสากร, "ข้อพิจารณาตามหลักการประมวลผลข้อมูลเท่าที่จำเป็น (Data Minimization) ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล (Personally Identifiable Information) ของกรมสรรพากร" (2020). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 7233.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/7233