Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การเปรียบเทียบความเที่ยงและความยากของแบบเลือกตอบและแบบถูกผิด ที่มีความตรงเทียบเคียงกัน

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

A comparison of reliability and difficulty of multiple choice and true-false tests possessing the comparable validity

Year (A.D.)

1982

Document Type

Thesis

First Advisor

เยาวดี วิบูลย์ศรี

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

ครุศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

วิจัยการศึกษา

DOI

10.58837/CHULA.THE.1982.254

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อ 1) หาอัตราส่วนของจำนวนข้อกระทงของแบบสอบแบบเลือกตอบต่อแบบถูกผิดที่มีข้อผิด 67% และแบบถูกผิดที่มีข้อผิด 50% ซึ่งนักเรียนทำได้ในเวลาเท่ากัน 2) เปรียบเทียบความเที่ยงและความยากของแบบสอบทั้งสามฉบับดังกล่าวที่มีความตรงเทียบเคียงกัน เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ แบบสอบสัมฤทธิ์ผลทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น 3 แบบ คือ แบบเลือกตอบ แบบถูกผิดที่มีข้อผิด 67% ของจำนวนข้อสอบทั้งหมด และแบบถูกผิดที่มีข้อผิด 50% ของจำนวนข้อสอบทั้งหมด ผู้วิจัยทดสอบความตรงของแบบสอบทั้งสามฉบับโดยใช้แบบสอบสัมฤทธิผลวิชาคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาเป็นเกณฑ์ ปรากฏว่า ความตรงของแบบสอบทั้งสามฉบับไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 กลุ่มตัวอย่างในการวิจัย ได้แก่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่เรียนวิชา ค.011 ในกรุงเทพมหานคร จำนวน 522 คน ในการเก็บข้อมูล ให้นักเรียนแต่ละคนในกลุ่มตัวอย่างทำแบบฉบับใดฉบับหนึ่งจากแบบสอบทั้งสามฉบับด้วยวิธีการสุ่ม และผู้วิจัยจะบันทึกเวลาที่นักเรียนแต่ละคนใช้ในการทำแบบสอบแต่ละฉบับเสร็จแล้ววิเคราะห์ข้อมูลดังนี้ 1) หาอัตราส่วนของจำนวนข้อกระทงของแบบสอบแบบเลือกตอบต่อแบบถูกผิดทั้งสองฉบับที่นักเรียนทำได้ในเวลาเท่ากัน 2) หาค่าความเที่ยงของแบบสอบแต่ละฉบับโดยใช้สูตรคูเดอร์ ริชาร์ดสัน 20 แล้วปรับค่าความเที่ยงของแบบสอบแบบถูกผิดด้วยสูตรสเปียร์แมน บราวน์ 3) เปรียบเทียบค่าความเที่ยงของแบบสอบด้วยไคสแควร์ เทคนิคและทดสอบความแตกต่างเป็นรายคู่โดยใช้อัตราส่วนซี 4) เปรียบเทียบค่าความยากของแบบสอบทั้งสามฉบับ โดยการวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบทางเดียวและทดสอบความแตกต่างเป็นรายคู่โดยวิธีดันแคน ผลการวิจัยปรากฎว่า 1. เมื่อเวลาที่ใช้ในการสอบเท่ากัน อัตราส่วนของจำนวนข้อกระทงของแบบสอบแบบเลือกตอบต่อแบบถูกผิดที่มีข้อผิด 67% ของจำนวนข้อสอบทั้งหมด มีค่าเท่ากับ 1:1.16 และอัตราส่วนของจำนวนข้อกระทงของแบบเลือกตอบต่อแบบถูกผิดที่มีข้อผิด 50% ของจำนวนข้อสอบทั้งหมด มีค่าเท่ากับ 1:1.13 2. หลังจากปรับเวลาที่ใช้ในการสอบให้เท่ากัน ปรากฏว่า แบบสอบแบบเลือกตอบมีค่าความเที่ยงสูงกว่าแบบถูกผิดทั้งสองฉบับ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 แต่ค่าความเที่ยงของแบบถูกผิดทั้งสองฉบับไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3. แบบสอบแบบเลือกตอบยากกว่าแบบถูกผิดทั้งสองฉบับอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 แต่ค่าความยากของแบบสอบแบบถูกผิดทั้งสองฉบับไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

Share

COinS