Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนด้วยวิธีการแบ่งกลุ่มแบบต่างๆ

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

A comparison of the science learning achievement of mathayom suksa one students learning by different grouping methods

Year (A.D.)

1982

Document Type

Thesis

First Advisor

จันทร์เพ็ญ เชื้อพานิช

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

ครุศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

มัธยมศึกษา

DOI

10.58837/CHULA.THE.1982.215

Abstract

การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงทดลอง โดยมีวัตถุประสงค์ของการวิจัย 2 ประการ คือ 1. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนด้วยวิธีการแบ่งกลุ่มแบบต่าง ๆ กัน 4 แบบ คือ แบบที่ 1 แบ่งกลุ่มโดยครูเป็นผู้แบ่งให้โดยเรียงตามลำดับเลขที่ แบบที่ 2 แบ่งกลุ่มโดยครูเป็นผู้แบ่งให้โดยให้แต่ละกลุ่มมีนักเรียนที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร์ สูง, ปานกลาง และต่ำคละกันทุกกลุ่ม และให้นักเรียนที่มีผลสัมฤทธิ์สูงทำหน้าที่เป็นผู้นำกลุ่ม แบบที่ 3 แบ่งกลุ่มโดยให้นักเรียนเลือกจัดกลุ่มหาผู้ร่วมงานกันเอง แบบที่ 4 แบ่งกลุ่มโดยให้นักเรียนจับสลากเพื่อหาผู้ร่วมงาน และทำการจับสลากทุกครั้งก่อนเริ่มเรียนคาบเรียนใหม่ โดยครูเป็นผู้เตรียมสลากไว้ให้ 2. เพื่อศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการแบ่งกลุ่มในการเรียนวิทยาศาสตร์ ตัวอย่างประชากรคือนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย จำนวน 4 ห้องเรียน ๆ ละ 48 คน นักเรียนทั้งสี่ห้องมีคะแนนผลสัมฤทธิ์วิชาวิทยาศาสตร์ประจำภาคต้นไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05 การกำหนดวิธีแบ่งกลุ่มสำหรับแต่ละห้องเรียนนั้นใช้วิธีจับสลาก แล้วดำเนินการสอนวิทยาศาสตร์ เรื่อง สมบัติของสาร และเรื่องหินและแร่ เป็นเวลา 12 สัปดาห์ ๆ ละ 4 คาบ ตัวอย่างประชากรได้รับการทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเมื่อเรียนจบแต่ละบทเรียนและตอบแบบสอบถามความคิดเห็นที่มีต่อการแบ่งกลุ่มหลังจากการทดลองสอนนั้นสิ้นสุดลง และวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้มัชฌิมเลขคณิต ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์ความแปรปรวน (ANOVA) ผลการวิจัย 1. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร์ของกลุ่มตัวอย่างประชากรทั้ง 4 กลุ่ม ที่เรียนด้วยวิธีการแบ่งกลุ่มแบบต่าง ๆ ไม่แตกต่างกันที่ระดับความมีนัยสำคัญ .05 2. กลุ่มตัวอย่างประชากรมีความเห็นด้วยต่อการเรียนแบบแบ่งกลุ่มแต่ละแบบในระดับปานกลาง

Share

COinS