Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ความคิดเห็นของนักศึกษาครูเกี่ยวกับโปรแกรมสังคมศึกษาระดับปริญญาตรี ในวิทยาลัยครูภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Student-teachers' opinions concerning undergraduate social studies programs in teachers colleges in the Northeastern Provinces

Year (A.D.)

1982

Document Type

Thesis

First Advisor

พิบูลศรี วาสนสมสิทธิ์

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

ครุศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

มัธยมศึกษา

DOI

10.58837/CHULA.THE.1982.211

Abstract

วัตถุประสงค์ของการวิจัย 1. เพื่อศึกษาความคิดเห็นของนักศึกษาครูเกี่ยวกับโปรแกรมสังคมศึกษาระดับปริญญาตรี ในด้านจุดมุ่งหมายของวิชาสังคมศึกษา เนื้อหาวิชาและเวลาที่กำหนดในหลักสูตร กระบวนการเรียนการสอน วัสดุอุปกรณ์การเรียนการสอน การวัดและประเมินผลการเรียนการสอน 2. เพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของนักศึกษาที่มีประสบการณ์ในการสอนโดยเป็นครูประจำการแล้วกับนักศึกษาที่ไม่มีประสบการณ์ในการสอนเกี่ยวกับหลักสูตรวิชาสังคมศึกษา ระดับปริญญาตรีในวิทยาลัยครูภาคตะวันออกเฉียงเหนือ วิธีดำเนินการวิจัย ผู้วิจัยได้เลือกวิทยาลัยครู 7 แห่ง จากจำนวนทั้งหมด 8 แห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่เปิดสอนวิชาสังคมศึกษาเป็นวิชาเอก ส่วนแบบสอบถามที่สร้างขึ้นเองไปยังนักศึกษาที่มีประสบการณ์ในการสอนโดยเป็นครูประจำการแล้ว จำนวน 140 คน และนักศึกษาที่ไม่มีประสบการณ์ในการสอนจำนวน 140 คน ในวิทยาลัยครู 7 แห่ง ซึ่งคัดเลือกด้วยวิธีสุ่มตัวอย่างแบบง่าย (Simple Random Sampling) นักศึกษาทั้ง 2 ประเภทนี้เลือกวิชาสังคมศึกษาเป็นวิชาเอก แบบสอบถามที่ได้รับกลับคืนมีจำนวน 247 ชุด คิดเป็นร้อยละ 88.21 การวิเคราะห์ข้อมูลใช้วิธีหาค่าร้อยละ มัชฌิมเลขคณิต ( x ̅ ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และค่าที่ (t – test) และนำเสนอในรูปตารางและอธิบายประกอบ ผลการวิจัย นักศึกษาทั้งสองประเภทได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับโปรแกรมสังคมศึกษาระดับปริญญาตรีในด้านต่างๆ ดังนี้ 1. จุดมุ่งหมายของวิชาสังคมศึกษา นักศึกษาทั้งสองประเภทแสดงความคิดเห็นในระดับมากเกี่ยวกับความชัดเจนและความเหมาะสมของจุดมุ่งหมายที่ระบุใช้ในหลักสูตร แต่มีความคิดเห็นระดับน้อยเกี่ยวกับการนำไปปฏิบัติจริงในชีวิตประจำวัน 2. เนื้อหาวิชาและเวลาที่กำหนดในหลักสูตร นักศึกษาทั้งสองประเภทแสดงความคิดเห็นในระดับมากเกี่ยวกับเรื่องต่อไปนี้คือ เนื้อหาวิชาให้ความรู้และทักษะที่เป็นพื้นฐานในการแสวงหาความรู้เพิ่มเติม ช่วยให้เข้าใจบทบาทของสมาชิกที่ดีในสังคม และเจตคติที่ดีต่อการเรียนการสอนวิชาสังคมศึกษา วิชาที่เหมาะสมเป็นวิชาบังคับได้แก่กฎหมายรัฐธรรมนูญและกฎหมายสำหรับประชาชน เศรษฐกิจประเทศไทยและปัญหาสังคมไทย แต่ความคิดเห็นในระดับน้อยเกี่ยวกับเนื้อหาวิชาสอดคล้องกับสภาพท้องถิ่นและความสมดุลย์ของเนื้อหาวิชากับเวลาเรียน 3. กระบวนการเรียนการสอน นักศึกษาทั้งสองประเภทแสดงความคิดเห็นในระดับมากเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนการสอน และทักษะในการค้นคว้าเพิ่มเติมจากแหล่งวิทยาการ วิธีการสอนส่วนใหญ่เป็นการบรรยาย เน้นภาคทฤษฏีมากกว่าภาคปฏิบัติ กิจกรรมการเรียนการสอนมุ่งพัฒนาความรู้ความจำ การมองโลกในแง่ดีการมีมนุษย์สัมพันธ์ แต่มีความคิดเห็นในระดับน้อยเกี่ยวกับกิจกรรมที่ใช้ในการเรียนการสอนเหล่านี้คือ การเชิญวิทยากรมาบรรยาย การใช้ชุดการสอน การจัดกิจกรรมนอกหลักสูตรการศึกษานอกสถานที่และการใช้บทบาทสมมุติ 4. วัสดุอุปกรณ์การเรียนการสอน นักศึกษาทั้งสองประเภท แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับในระดับความต้องการเอกสารในการค้นคว้า แต่มีความคิดเห็นในระดับน้อยเกี่ยวกับอาจารย์ผู้สอนเปิดโอกาสให้ผู้เรียนใช้อุปกรณ์การเรียนการสอน การนำโสตทัศนูปกรณ์และสื่อการสอนมาใช้ได้แก่ภาพยนตร์ ฟิล์มสตริป สไลด์ ภาพถ่ายทางอากาศ กราฟสถิติ หุ่นจำลอง ของจริง โทรทัศน์ วิทยุ เครื่องบันทึกเสียง เครื่องฉายภาพข้ามศีรษะแหล่งความรู้และวิทยากรในท้องถิ่น และวัสดุอุปกรณ์นำมาใช้มากได้แก่ แผนที่ แผนภูมิ และรูปภาพ 5. การวัดและประเมินผลการเรียนการสอน นักศึกษาทั้งสองประเภทแสดงความคิดเห็นในระดับมากเกี่ยวกับการวัดและประเมินผลจากการทำรายงานเป็นรายบุคคลและรายกลุ่ม การค้นคว้า อภิปราย การทดสอบกลางภาค และปลายภาคโดยใช้วิธีวัดแบบอิงกลุ่ม ข้อสอบวัดในด้านความรู้ความจำใช้แบบทดสอบแบบปรนัยที่ครอบคลุมเนื้อหาครบแต่มีความคิดเห็นในระดับน้อยเกี่ยวกับการวัดและประเมินผล จากการสังเกตการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการพัฒนาเจตคติ ความสนใจ และบุคลิกภาพทั่วไปของผู้เรียน เมื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของนักศึกษาทั้งสองประเภท ปรากฏว่าการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับจุดมุ่งหมายของวิชาสังคมศึกษา เนื้อหาวิชา และเวลาที่กำหนดในหลักสูตร กระบวนการเรียนการสอน วัสดุอุปกรณ์การเรียนการสอน การวัดและประเมินผลการเรียนการสอน นักศึกษาทั้งสองประเภทส่วนใหญ่มีความคิดเห็นไม่แตกต่างกันที่ระดับนัยสำคัญ 0.05

Share

COinS