Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ความคิดเห็นเกี่ยวกับค่านิยมทางสังคมของนักเรียนมัธยมศึกษาในกรุงเทพมหานคร

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Opinions concerning social values of secondary school students in Bangkok Metropolis

Year (A.D.)

1982

Document Type

Thesis

First Advisor

วลัย อารุณี

Second Advisor

สุวัฒนา อุทัยรัตน์

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

ครุศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

มัธยมศึกษา

DOI

10.58837/CHULA.THE.1982.196

Abstract

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1. เพื่อศึกษาความคิดเห็นเกี่ยวกับค่านิยมทางสังคมของนักเรียนมัธยมศึกษาในกรุงเทพมหานคร ในเรื่อง การรักษาความอิสระ ความรับผิดชอบ ระเบียบวินัย การเคารพระบบอาวุโส การถือพรรคถือพวก การตรงต่อเวลา การประหยัดมัธยัสถ์ การนิยมไทย การบำเพ็ญตนเป็นประโยชน์ และการพึ่งตนเอง 2. เพื่อศึกษาเปรียบเทียบความคิดเห็นด้านค่านิยมทางสังคมของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นกับตอนปลาย 3. เพื่อศึกษาเปรียบเทียบความคิดเห็นด้านค่านิยมทางสังคมของนักเรียนที่มีองค์ประกอบต่อไปนี้ต่างกัน คือฐานะทางเศรษฐกิจของครอบครัว พื้นฐานการศึกษาของบิดา มารดา ลักษณะอาชีพของบิดามารดา สภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยของนักเรียน การอบรมเลี้ยงดูบูตรของบิดามารดา สภาพแวดล้อมของโรงเรียน และช่วงเวลาเฉพาะที่มีการสอนค่านิยมทางสังคมในโรงเรียนง่ายจากโรงเรียนมัธยมศึกษาในกรุงเทพมหานคร 8 โรงเรียน เป็นโรงเรียนรัฐบาล 4 โรง โรงเรียนราษฎร์ 4 โรง จำนวน 800 คน ผู้วิจัยได้สร้างแบบสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับค่านิยมทางสังคมแบบมาตราส่วนประเมินค่ามีคำตอบ 5 ระดับ จำนวน 88 ข้อ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าร้อยละ หาค่ามัชฌิมเลขคณิต (X) หาส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D) ทดสอบค่าที (t-test) และทดสอบค่าไคสแควร์ (X2) สรุปผลการวิจัย ผลการวิจัยพบว่า นักเรียนมัธยมศึกษาในกรุงเทพมหานคร ส่วนใหญ่มีความคิดเห็นเกี่ยวกับค่านิยมทางสังคม 10 ประการ อยู่ในเกณฑ์เห็นด้วย ในการเปรียบเทียบความคิดเห็นเกี่ยวกับค่านิยมทางสังคมระหว่างนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลาย พบว่า นักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลายมีความคิดเห็นเกี่ยวกับค่านิยมทางสังคมไม่แตกต่างกันที่ระดับความมีนัยสำคัญ 0.05 ในเรื่อง การเคารพอาวุโส การถือพรรคถือพวก การตรงต่อเวลา การประหยัดมัธยัสถ์ และการนิยมไทย นักเรียนทั้งสองระดับมีความคิดเห็นเกี่ยวกับค่านิยมทางสังคมแตกต่างกันที่ระดับความมีนัยสำคัญ 0.05 ในเรื่อง การรักอิสระ ความรับผิดชอบ ระเบียบวินัย การบำเพ็ญตนเป็นประโยชน์ และการพึ่งตนเอง และพบว่านักเรียนที่บิดามารดามีฐานะทางเศรษฐกิจต่างกัน มีความคิดเห็นเกี่ยวกับค่านิยมทางสังคมต่างกันที่ระดับความมีนัยสำคัญ 0.05 แต่ปรากฎว่า นักเรียนที่บิดามารดามีระดับการศึกษา อาชีพ การให้การอบรมเลี้ยงดูบุตรต่างกัน และนักเรียนที่สภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัย สภาพแวดล้อมของโรงเรียนรวมทั้งช่วงเวลาเฉพาะที่มีการสอนค่านิยมทางสังคมในโรงเรียนที่แตกต่างกัน มีความคิดเห็นเกี่ยวกับค่านิยมทางสังคมไม่แตกต่างกันที่ระดับความมีนัยสำคัญ 0.05

Share

COinS