Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การศึกษาทัศนคติของผู้บริหารและพนักงานธนาคารในกรุงเทพมหานคร ที่มีต่องานด้านบุคลากร

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

A study of attitudes of the administrators and the employees of banks in Bangkok Metropolitan area towards personnel job

Year (A.D.)

1982

Document Type

Thesis

First Advisor

ไพลิน ผ่องใส

Second Advisor

สวนา พรพัฒน์กุล

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

พาณิชยศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

พาณิชยศาสตร์

DOI

10.58837/CHULA.THE.1982.396

Abstract

จุดประสงค์ในการศึกษาเรื่องนี้มี 3 ประการคือ 1. เพื่อจะได้ทราบทัศนคติของผู้บริหารและพนักงานที่มีต่องานบุคลากรโดยแน่ชัดว่าเป็นอย่างไร จะได้หาทางแก้ไขทั้งในฝ่ายบุคลากรและองค์การด้วย 2. เพื่อเปรียบเทียบทัศนคติที่เกี่ยวกับงานด้านบุคลาการของผู้บริหารและพนักงานในแผนกบุคลาการและแผนกอื่น ๆ ว่าแตกต่างกันหรือไม่อย่างไร 3. เพื่อเป็นความรู้ยืนยันแน่ชัดเกี่ยวกับทัศนคติต่องานด้านบุคลาการโดยมีหลักฐานแน่นอนไม่ใช่เพียงคำกล่าวอ้างอย่างในปัจจุบัน กลุ่มตัวอย่างที่ศึกษาสุ่มมาจาก ผู้บริหาร พนักงานในแผนกบุคลาการและแผนกอื่น ๆ ทั่วไป มีจำนวน ผู้บริหาร 98 คน พนักงานในแผนกบุคลาการ 49 คน พนักงานทั่วไป 176 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาได้แก่ แบบสอบถามทัศนคติ 1 ชุด มีคำถาม 78 ข้อ ซึ่งมีค่าความเชื่อถือได้เท่ากับ 0.8737 และมีความเที่ยงตรงชนิด face validity ข้อมูลที่วิเคราะห์ใช้สถิติพื้นฐานและใช้ t-test และ F-test (one way ANOVA) ผลของการศึกษาพบว่า 1. โดยทั่วไปแล้วทัศนคติของผู้บริหารที่มีต่องานด้านบุคลาการดีกว่า พนักงานในแผนกทั่วไป และพนักงานในแผนกบุคลาการเอง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 แต่เมื่อใช้คำถามวัดทัศนคติต่อพฤติกรรม พบว่า ในด้านปฏิบัติการผู้บริหารยังมีพฤติกรรมชี้ให้เห็นว่ามีทัศนคติต่องานในแผนกบุคลาการน้อยกว่างานในแผนกอื่น ๆ และไม่พบความแตกต่างระหว่างพนักงานทั่วไปกับพนักงานในแผนกบุคลาการ 2. ผู้บริหารมีทัศนคติต่อการจัดหาบุคคลดีกว่าพนักงานทั่วไปและพนักงานในแผนกบุคลาการอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระดับ .05 แต่ไม่พบความแตกต่างกันระหว่างพนักงาน 2 กลุ่มหลัง 3. ผู้บริหารมีทัศนคติด้านพัฒนาพนักงานดีกว่าพนักงานทั่วไปอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 นอกนั้นไม่พบความแตกต่างกัน 4. ผู้บริหารมีทัศนคติด้านการจูงใจพนักงานดีกว่าพนักงานทั่วไปและพนักงานในแผนกบุคลาการอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และพนักงานทั่วไปก็มีทัศนคติด้านการจูงใจพนักงานดังกล่าว ดีกว่าพนักงานในแผนกบุคลาการอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เช่นกันดีกว่าพนักงานทั่วไปอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ส่วนผู้บริหารกับพนักงานในแผนกบุคลาการไม่พบความแตกต่างกันในเรื่องดังกล่าว 6. พนักงานในแผนกบุคลาการมีทัศนคติต่อการปฏิบัติงานดีกว่าผู้บริหารและพนักงานทั่วไปอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 แต่ไม่พบความแตกต่างกันระหว่างผู้บริหารและพนักงานทั่วไป ข้อเสนอแนะ อันเป็นผลเนื่องมาจากผลการวิจัยในครั้งนี้ ผู้วิจัยใคร่เสนอให้ผู้บริหารแก้ไขทัศนคติของตนเองต่องานในแผนกบุคลาการ และควรจะได้จัดการมอบหมายงานในการบริหารงานในแผนกบุคลการให้แก่ผู้บริหารในแผนกนี้อย่างเต็มตัว ตลอดจนให้ได้มีส่วนในการวางแผนทั่วไปและรับรู้นโยบายต่าง ๆ ขององค์การด้วย ผู้บริหารควรปรับปรุงหลักการและกฎเกณฑ์ในการคัดเลือกและสรรหาบุคลากรให้ดีขึ้น ให้มีการประเมินผลงานและให้ความดีความชอบแก่พนักงานอย่างยุติธรรม ควรวางแผนในการพัฒนาพนักงานให้ทั่วถึงทั้งในด้านวิชาการ ด้านเทคนิคและด้านจิตใจเพื่อจะได้ขจัดปัญหาขัดแย้งระหว่างผู้บริหาร พนักงานและสหภาพพนักงานที่มีอยู่ในปัจจุบันให้ลดน้อยลงหรือหมดไป

Share

COinS