Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ความสัมพันธ์ระหว่างทัศนคติต่อพลศึกษา ทักษะทางกีฬา และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนพลศึกษาของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Relationships among attitudes towards physical education, sports skills, and achievement in physical education of lower secondary school students

Year (A.D.)

1982

Document Type

Thesis

First Advisor

วรศักดิ์ เพียรชอบ

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

ครุศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

พลศึกษา

DOI

10.58837/CHULA.THE.1982.168

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างทัศนคติต่อพลศึกษา ทักษะทางกีฬา และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนพลศึกษา กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่สี่ ชาย หญิง จำนวน 400 คน เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูล คือ แบบวัดทัศนคติต่อวิชาพลศึกษาของ โฆสิต แจ้งสกุล แบบทดสอบทักษะทางกีฬาทั่วไปของจอห์นสัน และแบบทดสอบพื้นฐานทักษะทางกีฬาของมอร์ริสัน สำหรับคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รวบรวมจากระเบียบของโรงเรียน วิเคราะห์ข้อมูล โดยการหาค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน และสหสัมพันธ์พหุคูณ ทดสอบความมีนัยสำคัญทางสถิติด้วย t-test และ F-test ผลการวิจัยพบว่า 1. ทัศนคติต่อพลศึกษาของนักเรียนชาย หญิง มีความสัมพันธ์กับทักษะทางกีฬา .35 และ .17 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .001 และ .01 ตามลำดับ 2. ทัศนคติต่อพลศึกษาของนักเรียนชาย หญิง มีความสัมพันธ์กับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนพลศึกษา .25 และ .41 ตามลำดับ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .001 3. ทักษะทางกีฬาจองนักเรียนชาย หญิง มีความสัมพันธ์กับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน .41 และ .40 ตามลำดับอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .001 4. สหสัมพันธ์พหุคูณของนักเรียน ชาย หญิง ระหว่างตัวทำนาย คือ ทัศนคติต่อพลศึกษา ทักษะทางกีฬากับตัวเกณฑ์ คือ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนพลศึกษา มีค่า .43 และ .53 ตามลำดับ โดยมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 5. สมการทำนายผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนพลศึกษา คือ นักเรียนชาย Y = 0.233 + .120X1 + .371X2 นักเรียนหญิง Y = -3.178 + .356X1 + .339X2

Share

COinS