Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การนำระบบศาลภาษีมาใช้ในประเทศไทย

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Adaptation of tax court syatem to Thailand

Year (A.D.)

1982

Document Type

Thesis

First Advisor

กาญจนา นิมมานเหมินทร์

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

นิติศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

นิติศาสตร์

DOI

10.58837/CHULA.THE.1982.325

Abstract

เนื่องด้วยกระบวนการทางเศรษฐกิจ พาณิชยกรรมได้พัฒนาก้าวหน้าไปเป็นอันมากทำให้ข้อพิพาทในเรื่องภาษีอากรระหว่างประชาชนผู้เสียภาษีกับเจ้าหน้าที่ประเมินภาษีของรัฐทวีจำนวนมากขึ้นและซับซ้อนยิ่งขึ้น กระบวนการยุติธรรมทั้งในขั้นตอนของฝ่ายบริหารคือคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ของกรมสรรพากร และศาลไม่อาจอำนวยความเป็นธรรมให้แก่คู่กรณีได้อย่างเต็มที่เพราะขั้นตอนการพิจารณาทั้งในชั้นคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์และศาลใช้เวลานานมาก ประกอบทั้งบุคคลที่ประกอบเป็นคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ประกอบด้วยข้าราชการระดับสูงซึ่งมีงานประจำมากทำให้ไม่สามารถอุทิศเวลาอย่างเต็มที่ในการพิจารณาอุทธรณ์ของผู้เสียภาษีได้ สำหรับกระบวนการทางด้านศาลสถิตยุติธรรมนั้น อาจพิจารณาได้ว่ากระบวนวิธีพิจารณาที่ใช้ในการพิจารณาวินิจฉัยชี้ขาดข้อพิพาทในคดีนั้นไม่เหมาะสมกับการนำมาใช้พิจารณาวินิจฉัยคดีภาษีซึ่งต้องการความรวดเร็วและความประหยัด ประกอบทั้งสมควรจะพิจารณาจัดหาผู้พิพากษาที่มีความรู้และความเข้าใจกฎหมายภาษีอากรและมีความรู้ทางด้านธุรกิจเชิงปฏิบัติเพื่อให้สามารถพิจารณาวินิจฉัยข้อพิพาทภาษีได้อย่างละเอียดรอบคอบ เมื่อได้พิจารณาจุดบกพร่องต่าง ๆ ในการพิจารณาคดีภาษีของประเทศไทยแล้วทำให้เกิดแนวความคิดว่าจะทำอย่างไรจึงจะทำให้คดีภาษีได้รับการพิจารณาโดยรวดเร็ว สะดวก ประหยัด และยุติธรรมแก่คู่กรณีให้ได้มากที่สุด ซึ่งจากแนวความคิดนี้ทำให้ผู้เขียน ได้เขียนวิทยานิพนธ์เรื่อง “การนำระบบศาลภาษีมาใช้ในประเทศไทย" ขึ้น เพื่อเสนอวิถีทางอันเหมาะสมในการดำเนินกระบวนการพิจารณาข้อพิพาททางภาษีให้อำนวยความเป็นธรรมแก่ประชาชนให้ได้มากที่สุด ในการดำเนินการเขียนวิทยานิพนธ์เรื่องนี้ปรากฏว่ามีอุปสรรคอย่างมากในการรวบรวมเอกสารประกอบการค้นคว้า โดยเฉพาะเอกสารภาษาไทยนั้นแทบจะเรียกได้ว่าไม่มีเลย จะมีก็แต่เฉพาะรายงานการเดินทางไปดูงานศาลยุติธรรมในต่างประเทศของผู้พิพากษาศาลยุติธรรมเท่านั้นแต่ก็เป็นรายงานค่อนข้างรวบรัด เอกสารประกอบการค้นคว้าที่ถือเป็นหลักของการเขียนวิทยานิพนธ์เล่มนี้คือหนังสือ World Tax Series ของ Harvard Law School ซึ่งได้เรียบเรียงกระบวนการและขั้นตอนการปฏิบัติในเรื่องภาษีอากรไว้โดยจำแนกเป็นระบบภาษีอากรของแต่ละประเทศ หนังสือประกอบการค้นคว้าอีกเล่มหนึ่งที่สำคัญคือหนังสือ The United States Tax Court (1981) จากหนังสือภาษาต่างประเทศที่กล่าวมานี้ทำให้สามารถวิเคราะห์กระบวนการอุทธรณ์คดีภาษีอากรของต่างประเทศได้ค่อนข้างละเอียดโดยจัดลำดับหัวข้อให้เป็นไปตามลำดับเพื่อสะดวกแก่การค้นคว้า เมื่อได้ศึกษาเปรียบเทียบกระบวนการยุติธรรมในการพิจารณาคดีภาษีของต่างประเทศกับประเทศไทยแล้ว อาจพิจารณาสรุปได้ว่าสมควรจัดตั้งศาลภาษีขึ้นในประเทศไทยเพื่อเป็นการพัฒนากระบวนการยุติธรรมของไทยให้ทันกับสภาพเศรษฐกิจการค้าที่กำลังพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ศาลภาษีนี้มีหลักสำคัญ 2 ประการคือ ต้องประกอบด้วยผู้พิพากษาที่มีความชำนาญและจัดเจนทางด้านกฎหมายภาษีอากรและธุรกิจเชิงปฏิบัติ และการพิจารณาคดีภาษีนั้น ต้องมีวิธีพิจารณาความโดยเฉาะเพื่อความสะดวกและรวดเร็วแก่คู่กรณี ข้อเสนอแนะในการเสนอให้นำระบบศาลภาษีมาใช้ในประเทศไทยนี้ ผู้เขียนพิจารณาแล้วมีความเห็นว่าจะช่วยในการขจัดอุปสรรคที่ปรากฏอยู่ในด้านพาณิชยกรรมและการพัฒนาเศรษฐกิจ และจะส่งผลดีต่อประชาชนและเศรษฐกิจของประเทศในที่สุด

Share

COinS