Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การศึกษาบริเวณโบราณสถานเพื่อประกอบการวางแผนพัฒนาเมือง เทศบาลเมืองนครศรีอยุธยา

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

A study of historic areas for their integration into an urban plan : Phra Nakhon Si Ayutthaya municipality

Year (A.D.)

1982

Document Type

Thesis

First Advisor

ดุษฎี ทายตะคุ

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

การวางแผนภาคและเมืองมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

การวางผังเมือง

DOI

10.58837/CHULA.THE.1982.32

Abstract

ประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่าพันปีของประเทศไทย บรรพบุรุษของเราได้สร้างสรรค์งานศิลปวัฒนธรรมไว้เป็นมรดกของชาติอย่างมากมาย แต่มาในยุคปัจจุบันเป็นยุคของความเสื่อมโทรมในด้านนี้อย่างมาก โบราณสถานโบราณวัตถุเป็นจำนวนมากถูกทำลายลง ทั้งโดยธรรมชาติความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของคนรุ่นหลัง และการปล่อยปละละเลยไม่บูรณะดูแลรักษา จากปัญหานี้ แผนการทำนุบำรุงส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมแห่งชาติในแผนพัฒนาเศรษฐกิจฉบับที่ 5 (พ.ศ.2525 – 2529) จึงตั้งเป้าหมายไว้ว่า ให้ประชากรโดยเฉพาะในเขตเมืองทั่วประเทศประมาณ 8 ล้านคน มีความสำนึกในการอนุรักษ์ ทำนุบำรุง คุ้มครองรักษา และหวงแหนมรดกทางศิลปวัฒนธรรมไว้ เพื่อเป็นเอกลักษณ์ของชาติและความภูมิใจในความเป็นชาติที่มีเอกราชมาช้านาน เทศบาลเมืองนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นชุมชนเมืองซึ่งประกอบด้วยบริเวณโบราณสถานเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเป็นที่ตั้งของเมืองหลวงของไทยในอดีต ในปัจจุบันตกอยู่ในสภาพปัญหาดังกล่าว โดยเกิดความขัดแย้งกันระหว่างการใช้ที่ดิน 50%เป็น Static function ได้แก่ บริเวณโบราณสถานที่ว่าง ถนน แม่น้ำลำคลอง กับอีก 50% เป็น Dynamic function ได้แก่ การใช้ที่ดินทางเศรษฐกิจที่มีการขยายตัวอยู่ทุกขณะ ได้แก่ บริเวณพักอาศัย บริเวณพาณิชยกรรม และ บริเวณอุตสาหกรรม วิทยานิพนธ์ฉบับนี้เป็นการศึกษาถึงสภาพในอดีตและปัจจุบัน คุณค่าความสำคัญ และปัญหาของบริเวณโบราณสถาน เพื่อเสนอแนะแนวทางการอนุรักษ์พัฒนาบริเวณโบราณสถาน และผลนำจากการศึกษาไปประกอบการตัดสินใจในการวางแผนพัฒนาเมือง โดยมีขั้นตอนในการศึกษา 5 ขั้นตอน คือ การศึกษาข้อมูลเบื้องต้น การสำรวจบริเวณโบราณสถานในพื้นที่ศึกษา การศึกษาวิเคราะห์สภาพโบราณสถาน ความสัมพันธ์ของบริเวณโบราณกับชุมชนเมืองและปัญหาของบริเวณโบราณสถาน การกำหนดเกณฑ์พิจารณาคุณค่าความสำคัญและระดับการอนุรักษ์และพัฒนา การวางนโยบาย และแนวทางในการอนุรักษ์และพัฒนาบริเวณโบราณสถาน รวมทั้งกำหนดมาตรการในการปฏิบัติให้เป็นไปตามแผน จากการศึกษาพบว่า เทศบาลเมืองนครศรีอยุธยาและบริเวณเกี่ยวเนื่องมีโบราณสถานเป็นจำนวนถึง 188 แห่ง ทำให้หน่วยงานของรัฐไม่มีงบประมาณพอที่จะดำเนินการอนุรักษ์และพัฒนา ทั้งในด้านการบูรณะ ดูแลรักษา และการปลูกฝังค่านิยมที่ดีแก่ประชาชน ในขณะเดียวกัน การขยายตัวของเมืองซึ่งเกิดจากเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมก็บีบบังคับให้ประชาชนไม่ใส่ใจในบริเวณโบราณสถาน เป็นผลให้โบราณสถานถูกประชิด บุกรุก และถูกทำลาย ซึ่งปัญหาดังกล่าวนี้จะส่งผลกระทบไปถึงการท่องเที่ยวซึ่งขึ้นอยู่กับบริเวณโบราณสถานเป็นสำคัญ นโยบายการอนุรักษ์และพัฒนาบริเวณโบราณสถานจึงควรให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมและแบ่งเบาภาระการอนุรักษ์และพัฒนาบริเวณโบราณสถานจากหน่วยงานของรัฐ โดยมีแนวทางและมาตรการแบ่งออกเป็น 7 แนวทาง คือ 1. การให้การศึกษาประชาสัมพันธ์เผยแพร่ การอนุรักษ์โบราณสถาน 2. การแบ่งกลุ่มโบราณสถาน ตามระดับคุณค่าความสำคัญ และระดับการได้รับการอนุรักษ์พัฒนา 3. การจัดระเบียบการใช้ที่ดิน และสภาพแวดล้อมชุมชน 4. การส่งเสริมกิจกรรมประเพณี และศิลปวัฒนธรรม 5. การจัดระบบสาธารณูปโภค, สาธารณูปการ 6. การจัดระบบการท่องเที่ยว 7. ข้อเสนอแนะการอนุรักษ์พัฒนาย่านโบราณสถาน 7 บริเวณ ได้แก่ บริเวณอุทยานประวัติศาสตร์ บริเวณบ้านสวน บริเวณอโยธยาตอนเหนือ บริเวณอโยธยาตอนใต้ บริเวณคลองสระบัว บริเวณย่านพาณิชยกรรมหัวรอ และบริเวณโบราณสถานตามลำน้ำสายต่างๆ การศึกษาทั้งหมดที่กล่าวมานี้สามารถนำไปใช้เพื่อการวางแผนอนุรักษ์พัฒนาบริเวณโบราณสถาน และนำไปประกอบการตัดสินใจในการวางแผนพัฒนาเทศบาลเมืองนครศรีอยุธยาได้เป็นอย่างดี

Share

COinS