Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การศึกษาเพื่อวางแผนการท่องเที่ยวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

A study for tourism development planning of Prachuap Khiri Khan Province

Year (A.D.)

1982

Document Type

Thesis

First Advisor

วรรณศิลป์ พีรพันธุ์

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

การวางแผนภาคและเมืองมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

การวางผังเมือง

DOI

10.58837/CHULA.THE.1982.31

Abstract

อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในปัจจุบันเป็นสาขาทางเศรษฐกิจที่สำคัญสาขาหนึ่งที่ทำรายได้ให้แก่ประเทศไทยปีหนึ่ง ๆ มาก 20,000 ล้านบาทจนต้องมีการวางแผนเพื่อกำหนดนโยบายและเป้าหมายไว้ในแผนพัฒนเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเพื่อที่จะพัฒนาและส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้ได้ผลและดำเนินไปในทิศทางที่ถูกต้องและเหมาะสม จังหวัดประจวบคีรีขันธ์เป็นจังหวัดหนึ่งในภาคตะวันตกที่มีทรัพยากรการท่องเที่ยวอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ยังใช้ประโยชน์ได้ไม่เต็มที่ ในปัจจุบันมีเพื่อแหล่งท่องเที่ยวไม่กี่แห่งที่เป็นที่รู้จักกันและตลาดการท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักจะเป็นตลาดภายในประเทศ การวางแผนเพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์จุงนับเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมให้มีการใช้ทรัพยากรการท่องเที่ยวอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นการเพิ่มรายได้ให้แก่จังหวัดและภาคตะวันตก อีกทั้งช่วยสงวนเงินตราของประเทศโดยการส่งเสริมนักท่องเที่ยวชาวไทยให้ท่องเที่ยวในประเทศแทนการเดินทางไปต่างประเทศ ตลอดจนช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศให้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยและภาคตะวันตกซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญอย่างหนึ่งในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมฉบับที่ 5 (พ.ศ.2525-2529) เนื้อหาสำคัญของการศึกษาเพื่อการวางแผนพัฒนาการท่องเที่ยวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์มีอยู่ 5 ส่วนใหญ่ด้วยกัน คือ การศึกษาสภาพโดยทั่วไปทางกายภาพ เศรษฐกิจสังคมและประชากร การศึกษาตลาดการท่องเที่ยว การศึกษาทรัพยากรการท่องเที่ยว การศึกษาโครงสร้างพื้นฐานในการพัฒนาการท่องเที่ยว และการเสนอแนะแนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยว จากการศึกษาพบว่าจังหวัดประจวบคีรีขันธ์มีสภาพภูมิศาสตร์ที่เอื้ออำนวยต่อการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก กล่าวคือ มีชายฝั่งทะเลติดอ่าวไทยเป็นแนวยาวมากว่า 200 กม. จากเหนือสุดจรดใต้สุดของจังหวัด ทำให้มีแหล่งท่องเที่ยวประเภทธรรมชาติด้านชายหาดที่สวยงามมากมาย อย่างไรก็ดี นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ยังรู้จักและนิยมเที่ยวเฉพาะในแหล่งท่องเที่ยวตอนบนของจังหวัด คือหาดหัวหินเท่านั้น แหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ใต้ลงไปจะมีนักท่องเที่ยวน้อยลงตามลำดับ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวไทยซึ่งในจำนวนนี้ประมาณ 60 % มาจากกรุงเทพฯโดยมีเวลาพักประมาณ 2.5 วันในวันสุดสัปดาห์ ส่วนนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศซึ่งมีประมาณ 8 % นั้นจะใช้เวลาพักนานวันกว่าคือประมาณ 7.4 วัน ในด้านทรัพยากรการท่องเที่ยว จากการสำรวจพบว่ามีอยู่ถึง 33 แห่ง ส่วนใหญ่เป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติประเภทชายทะเล และเมื่อประเมินค่าแหล่งท่องเที่ยวทั้งหมดจากการพิจารณาถึงความพร้อมในการรับนักท่องเที่ยวและคุณค่าในตัวเองด้านการท่องเที่ยวแล้วพบว่าแหล่งท่องเที่ยวที่มีศักยภาพในการพัฒนาสูงส่วนใหญ่จะเกาะกลุ่มกันอยู่ในเขตเทศบาลหัวหินซึ่งก็สอดคล้องกับการศึกษาในด้านโครงสร้างพื้นฐานในการพัฒนาการท่องเที่ยวโดยเปรียบเทียบในด้านคุณภาพขงแหล่งที่พัก การคมนาคม ระบบน้ำประปา ไฟฟ้า โทรศัพท์ ฯลฯ สำหรับแนวทางในการพัฒนาการท่องเที่ยวของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หลังจากประมวลผลจากการศึกษาในแง่ต่าง ๆ เข้าด้วยกันแล้ว ได้เสนอให้แบ่งพื้นที่ในการพัฒนาเป็น 3 ส่วนด้วยกัน คือ บริเวณตอนบนของจังหวัดซึ่งมีหาดหัวหินและเขาตะเกียบเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลัก บริเวณตอนกลางของจังหัดมีอ่าวประจวบและเขาช่องกระจกเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลัก และบริเวณตอนใต้ของจังหวัดมีอ่าวแม่รำพึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลัก โดยความสำคัญและมุ่งพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวตอนบนเป็นอันดับแรก แหล่งท่องเที่ยวจอนกลางเป็นอันดับรอง และแหล่งท่องเที่ยวตอนล่างเป็นอันดับสุดท้าย ซึ่งในที่นี้ยังคงมุ่งให้นักท่องเที่ยวชาวไทยเป็นเป้าหายหลักของตลาดการท่องเที่ยวของจังหวัดและนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศเป็นเป้าหมายรอง แต่ทั้งนี้การปรับปรุงและพัฒนาจะต้องคำนึงถึงความสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมและการอนุรักษ์ความเป็นธรรมชาติควบคู่ไปด้วยเป็นสำคัญ

Share

COinS