Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

โครงการสต็อคสินค้าข้าวตามฤดูกาลในประเทศไทย

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Seasonal rice buffer stock programme in Thailand

Year (A.D.)

1980

Document Type

Thesis

First Advisor

ชัยวัฒน์ คนจริง

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

เศรษฐศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

เศรษฐศาสตร์

DOI

10.58837/CHULA.THE.1980.29

Abstract

ข้าวเป็นสินค้าที่สำคัญของประเทศไทยที่เกี่ยวข้องกับบุคคล 3 ฝ่ายคือ ผู้ผลิต ผู้บริโภค และรัฐบาล ปัญหาของข้าวปัญหาหนึ่งก็คือ ปัญหาความผันผวนของตลาดและราคาในฤดูกาลการผลิตหนึ่งๆ ความไม่เสถียรภาพของระดับราคาข้าวจะเป็นในลักษณะที่ว่าระดับราคาข้าวตกต่ำสำหรับผู้ผลิตตอนต้นฤดูและสูงเกินไปสำหรับผู้บริโภคตอนปลายฤดู จากผลอันนี้ทำให้เกิดความไม่แน่นอนในระดับราคาและรายได้ของผู้ผลิตรวมทั้งความไม่แน่นอนในระดับราคาและรายได้ของผู้ผลิตรวมทั้งความไม่แน่นอนในระดับราคาผู้บริโภค ดังนั้นจุดประสงค์ของการศึกษาวิทยานิพนธ์ฉบับนี้จึงมีดังนี้ 1. เพื่อคาดคะเนความเคลื่อนไหวปริมาณข้าวที่ออกสู่ตลาดและระดับราคาข้าวในแต่ละฤดูกาลของแต่ละปี 2. เพื่อศึกษาถึงหลักเกณฑ์การดำเนินงานของโครงการสต๊อคกันชนข้าว โครงสร้างรูปแบบทางเศรษฐมิติที่อาศัยสมการเส้นตรงได้มาใช้ในการวิเคราะห์เรื่องนี้โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อคำนวณหาความแปรปรวนของปริมาณข้าวที่ออกสู่ตลาดเป็นรายเดือนในรอบปีหนึ่งๆ ตั้งแต่ปี 2513/14 – 2521/22 และเพื่อเป็นหลักฐานการคาดคะเนความแปรปรวนของปริมาณข้าวตามฤดูกาลในอนาคต ทำนองเดียวกันรูปแบบสมการดังกล่าวก็ได้นำมาใช้เพื่อการคาดคะเนความแปรปรวนของระดับราคาข้าวเปลือกในตลาดขายส่งควบคู่ไปด้วย ปริมาณข้าวที่ออกสู่ตลาดเป็นรายเดือนและค่าความยืดหยุ่นของความต้องการบริโภคข้าวที่คำนวณได้ก็ได้ใช้เป็นเครื่องมือการกำหนดปริมาณข้าวที่รับซื้อและจำหน่ายออกไปตามโครงการสต๊อคข้าวนี้ในแต่ละเดือนรวมทั้งการกะประมาณจำนวนเงินทุนรับซื้อและรายได้จากการจำหน่ายด้วย ผลของการศึกษาความแปรปรวนของปริมาณข้าวที่ออกสู่ตลาดโดยเฉลี่ยในช่วงระยะเวลาที่คาดคะเนพ.ศ.2522-2524 ปรากฏว่าปริมาณข้าวที่ออกสู่ตลาดมีการแปรปรวนจากค่าสูงสุดและต่ำสุดประมาณร้อยละ 27 ซึ่งมากกว่าความแปรปรวนของปริมาณข้าวที่ออกสู่ตลาดในระดับความเชื่อมั่นร้อยละ 95 (1.96 standard deviation) หรือเท่ากับร้อยละ 18 ของปริมาณข้าวที่ออกสู่ตลาดเฉลี่ยต่อเดือน ส่วนความแปรปรวนของระดับราคาขายส่งข้าวเปลือกจากค่าสูงสุดถึงค่าต่ำสุดคำนวณได้เท่ากับร้อยละ 14 ซึ่งมากกว่าความแปรปรวนของระดับราคาขายส่งข้าวเปลือกที่เป็นไปในระดับความเชื่อมั่นร้อยละ 95 (1.96 standard deviation) หรือเท่ากับร้อยละ 9 ของระดับราคาแนวโน้มเฉลี่ยของ 12 เดือน ตามที่ได้กำหนดในที่นี้โครงการฯ จะควบคุมระดับราคาข้าวให้เคลื่อนไหวอยู่ภายในขอบเขตสูงหรือต่ำคิดเป็นร้อยละ 1, 2.5, 5 ของราคาเป้าหมาย โดยมีค่าความยืดหยุ่นของความต้องการข้าวในช่วงระยะต้นฤดูเท่ากับ -0.78 และในช่วงระยะปลายฤดูเท่ากับ -1.38 หากความแปรปรวนของปริมาณข้าวที่ออกสู่ตลาดและระดับราคาข้าวยังคงเป็นไปในระดับความเชื่อมั่นร้อยละ 95 แล้ว จำนวนสต๊อคที่จะต้องรับซื้อใจ ณ ช่วงราคาเป้าหมาย 3 ช่วงดังกล่าวจะเท่ากับ 1.685 1.601 และ 1.451 ล้านตันตามลำดับ จำนวนเงินทุนที่ต้องการต่ำสุดจะเท่ากับ 5,000 ล้านบาท และสูงสุดไม่เกิน 6,051 ล้านบาท สำหรับช่วงราคาเป้าหมายที่กว้างที่สุดคือร้อยละ 5 ของราคาเป้าหมายเฉลี่ยนั้น จำนวนสต๊อคที่รับซื้อต่อฤดูคำนวณได้ต่ำสุดเท่ากับ 1.451 ตันหรือคิดเป็นเงินทุนที่ต้องรับซื้อเท่ากับประมาณ 5,000 ล้านบาท อย่างไรก็ดีโครงการเสถียรภาพราคาข้าวตามฤดูกาลตามที่ได้ศึกษาในที่นี้จะสามารถทำให้เกิดระดับช่วงราคาเสถียรภาพได้สูงสุดไม่เกินร้อยละ 5 สูงต่ำกว่าราคาเป้าหมายโดยเฉลี่ยแต่ถ้าความเคลื่อนไหวของราคาข้าวที่มากกว่าร้อยละ 5 สูงต่ำกว่าราคาเป้าหมายนั้นเป็นระดับราคาที่ยอมรับได้ในแง่ของเสถียรภาพของราคาแล้ว โครงการสต๊อคกันชนข้าวตามฤดูกาลที่ได้เสนอไว้ในการศึกษาครั้งนี้ก็ไม่มีความจำเป็นเพราะเพียง ลำพังกลไกลตลาดก็สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ของการเสถียรภาพราคาข้าวได้

Share

COinS