Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
การศึกษาการดำเนินงานทำไม้ซุงของรัฐวิสาหกิจในประเทศไทย
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
A study of state enterprises operation of timber harvesting in Thailand
Year (A.D.)
1980
Document Type
Thesis
First Advisor
สมโรช ศรีรองเมือง
Second Advisor
นราศรี ไววนิชกุล
Faculty/College
Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)
Degree Name
พาณิชยศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
DOI
10.58837/CHULA.THE.1980.299
Abstract
ป่าไม้เป็นทรัพยากรธรรมชาติอันมีค่ามหาศาล เปรียบเสมือนหนึ่งหลักทรัพย์ของชาติเป็นจุดเชื่อมโยงระหว่างทรัพยากรดิน ทรัพยากรน้ำ และทรัพยากรอื่นๆ เป็นแหล่งผลิตไม้และของป่าต่างๆ ซึ่งนำมาใช้และดัดแปลงเป็นบ้านเรือนที่อยู่อาศัย เครื่องมือเครื่องใช้ ยารักษาโรค เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ที่ให้ประโยชน์แก่มนุษย์ ป่าไม้เสมือนโรงงานฟอกอากาศให้บริสุทธิ์ ช่วยให้เกิดความเย็นขึ้นในอากาศ ป่าไม้เป็นแหล่งสะสมน้ำและปุ๋ยพืชไว้ในดิน โดยเฉพาะในบริเวณต้นน้ำลำธาร และยังช่วยกำบังบม ช่วยบรรเทาความร้อนแรงของอากาศให้น้อยลง ช่วยรักษาดุลยธรรมชาติไม่ให้เกิดมลภาวะ นอกจากนี้มนุษย์ยังได้อาศัยป่าเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจช่วยผ่อนคลายความตึงเครียด ทำให้เกิดสุขภาพจิตที่ดี การนำผลิตผลป่าไม้มาใช้ประโยชน์ก่อให้เกิดผลดีทั้งทางเศรษฐกิจและสังคม เพราะผลิตผลป่าไม้เป็นวัตถุดิบที่สำคัญของอุตสาหกรรมต่างๆ หลายประเภท ยังผลประโยชน์ให้เกิดต่อเนื่องเป็นลูกโซ่ทำให้ประชาชนมีงานทำ มีรายได้ดี ยกฐานะการครองชีพให้สูงขึ้น จึงสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจแก่ประชาชนและแก่ประเทศชาติ นับได้ว่าป่าไม้มีส่วนเอื้ออำนวยประโยชน์ให้แก่มวลมนุษย์อย่างมากมายทั้งทางตรงและทางอ้อม การรู้จักนำทรัพยากรป่าไม้ออกมาใช้ประโยชน์ด้วยวิธีอันชาญฉลาดและระมัดระวังมิให้เกิดผลเสียหายโดยเปล่าประโยชน์ จะสามารถใช้ทรัพยากรนั้นให้เกิดคุณค่าและได้มูลค่าสูงสุดเป็นเวลายาวนานต่อเนื่องกัน การรู้จักดูแลป้องกันรักษาป่าไม้มิให้ถูกทำลายเสียหาย มีผลถึงการอนุรักษ์ป่าไม้ให้มีอายุยืนยาวต่อไป ถ้ามีการเพิ่มผลผลิตของป่าให้สูงขึ้นด้วยการปลูกบำรุงป่าทดแทนส่วนที่ถูกนำออกมาใช้ประโยชน์แล้ว จะทำให้มีทรัพยากรป่าไม้ไว้ใช้ได้ตลอดไป เพื่อให้การนำทรัพยากรมาใช้ประโยชน์อย่างถูกต้องตามหลักวิชาและเกิดคุณค่ามากที่สุดแก่ประชาชน รัฐบาลจึงจำเป็นต้องจัดป่าไว้หลายประเภท เช่น ป่าเพื่อผลิตผล ป่าต้นน้ำลำธาร ป่าเพื่อสงวนพันธุ์สัตว์ป่า ป่าเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ เป็นต้น สำหรับป่าเพื่อผลิตผล รัฐบาลได้อนุญาตให้เอกชนและรัฐวิสาหกิจดำเนินการทำไม้ โดยยึดหลักปฏิบัติตามกฏหมายระเบียบ กฏข้องบังคับของทางราชการป่าไม้ ภายใต้การควบคุมของเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลอย่างใกล้ชิด การศึกษาเกี่ยวกับงานทำไม้ของรัฐวิสาหกิจ คืองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้และบริษัทไม้อัดไทย จำกัดในครั้งนี้ มุ่งศึกษาถึงวิธีการทำไม้ออกจากป่าอย่างถูกต้องตามหลักวิชา ระเบียบ กฏหมาย ซ่งรัฐวิสหกิจได้ดำเนินการตามระเบียบข้อบังคับมาโดยตลอด ยังผลให้สามารถนำไม้ออกจากป่ามาใช้ประโยชน์ได้อย่างคุ้มค่าและประหยัดต้นทุนการผลิต นำรายได้มาสู่รัฐอย่างมากมาย นอกจานี้ ยังได้ศึกษาถึงการวางแผนและการจัดการเกี่ยวกับงานทำไม้ ซึ่งมีความสำคัญ หากผู้รับผิดชอบสามารถวางแผนงานและจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว จะสามารถแก้ปัญหาหรืออุปสรรคข้อขัดข้องต่างๆ ได้อย่างดี ทำให้ทำงานบรรลุผลตามที่ต้องการและยังให้มูลค่าสูงสุดโดยเสียต้นทุนผลิตต่ำ ผลจากการศึกษาครั้งนี้ทำให้ได้ทราบถึงระเบียบ กฏหมาย กฏข้อบังคับ ตลอดจนวิธีปฏิบัติในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงานทำไม้ ได้ทราบถึงวิธีการวางแผนงาน การจัดการ และการแก้ไขอุสรรคในการทำไม้ พร้อมกับการนำความรู้ความชำนาญมาเป็นส่วนประกอบในการดำเนินงานด้วยจนได้รับผลดีตามเป้าหมาย ก่อให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุดในทางเศรษฐกิจและสังคมของชาติ โดยไม่ทำให้สภาพป่าเดิมสูญเสียไป ยิ่งกว่านั้น ยังได้ทราบถึงข้อกำหนดและวิธีการที่ผู้ประกอบการเกี่ยวกับการทำไม้ต้องปลูกป่าชิ้นทดแทนไม้ที่ถูกตัดฟันออกไป และยังเป็นการเพิ่มพูนเนื้อที่ป่าไม้ที่ถูกบุกรุกทำลายลงไปด้วย ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวข้างต้น รัฐวิสาหกิจทั้งสองสามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพจนถือเป็นแบบอย่างที่ดีได้
Creative Commons License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
หังสนาวิน, อรุณีพันธุ์, "การศึกษาการดำเนินงานทำไม้ซุงของรัฐวิสาหกิจในประเทศไทย" (1980). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 59116.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/59116