Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ความคิดเห็นของครูโรงเรียนอนุบาลในเขตกรุงเทพมหานครที่มีต่อหนังสือเด็กในวัยเริ่มอ่าน

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Viewpoints of kindergarten teachers in Bangkok about books for beginning readers

Year (A.D.)

1981

Document Type

Thesis

First Advisor

กล่อมจิตร พลายเวช

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

อักษรศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

บรรณารักษศาสตร์

DOI

10.58837/CHULA.THE.1981.533

Abstract

การวิจัยนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาทัศนคติของครูผู้สอนชั้นอนุบาลในการใช้หนังสือเด็กประกอบการเรียนการสอน ประโยชน์ของหนังสือเด็กในการส่งเสริมพัฒนาการในด้านต่างๆ ทั้งทางกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา รวมทั้งเพื่อทราบถึงความต้องการหนังสือเด็กในบางด้านที่ยังไม่มีการจัดทำขึ้น หนังสือเด็กวัยเริ่มอ่าน กำหนดให้เป็นหนังสือหัดอ่าน หัดเขียน หัดนับ หนังสือวาดภาพระบายสี หนังสือภาพ หนังสือนิทาน คำประพันธ์ร้อยกรอง ที่ครูใช้ประกอบการเรียนการสอน ตัวอย่างประชากรเป็นครูผู้สอนโรงเรียนอนุบาลในเขตกรุงเทพมหานครจากโรงเรียนอนุบาลของรัฐ 24 คน และโรงเรียนอนุบาลของเอกชน 176 คน รวมทั้งหมด 200 คน ซึ่งได้มาโดยวิธีจับฉลาก โดยให้ตอบแบบสอบถาม แล้วนำผลที่ได้มาคำนวณหาค่าร้อยละ ผลของการวิจัยสรุปได้ว่า ครูส่วนใหญ่เห็นว่าหนังสือมีความจำเป็นมาก เลือกใช้หนังสือที่ผลิตโดยสำนักพิมพ์เอกชนมากที่สุด โดยครูชั้นเดียวกันเป็นผู้พิจารณาเลือกหนังสือที่จะนำมาใช้สอนร่วมกัน ประเภทของหนังสือที่เหมาะกับความสนใจของเด็กมากที่สุด คือ นิทานประกอบภาพ ชอบเนื้อหาเกี่ยวกับธรรมชาติ พืช สัตว์ โดยเฉพาะตัวละครที่เป็นสัตว์พูดได้ และชอบคำประพันธ์ที่เป็นบทสนทนาสั้นๆ สำหรับลักษณะรูปเล่มของหนังสือที่ครูเห็นว่าเหมาะกับเด็กอนุบาลมากที่สุด คือ ขนาดกลาง (เท่าสมุดปกอ่อนขนาด 16.5 x 24.5 ซม. โดยประมาณ) โดยออกแบบรูปเล่มให้เป็นรูปตามเนื้อหาภายในเล่ม ใช้กระดาษสีหลายสีในการจัดพิมพ์ ถ้าเป็นกระดาษขาวเลือกใช้ตัวหนังสือสีดำมากที่สุด ชอบภาพประกอบที่มีสีฉูดฉาดตัดกัน โดยวางภาพกับตัวหนังสือไว้หน้าเดียวกัน ไม่ทับกัน เมื่อถามความคิดเห็นเกี่ยวกับคุณภาพของหนังสือในปัจจุบัน ครูส่วนใหญ่เห็นว่าคุณภาพพอใช้ได้ ส่วนประโยชน์ของหนังสือในการส่งเสริมพัฒนาการด้านต่างๆ ของเด็ก ครูให้ความเห็นว่า หนังสือหัดเขียนช่วยส่งเสริมพัฒนาการด้านร่างกายมากที่สุด หนังสือหัดอ่าน หัดนับ ช่วยส่งเสริมพัฒนาการด้านสติปัญญามากที่สุด หนังสือหัดวาดภาพระบายสี หนังสือภาพ และหนังสือนิทาน ช่วยส่งเสริมพัฒนาการด้านอารมณ์มากที่สุด และหนังสือโคลงกลอน ช่วยส่งเสริมพัฒนาการด้านอารมณ์และสติปัญญามากที่สุด สำหรับความต้องการหนังสือในบางด้านที่ยังไม่มีการจัดทำอย่างเพียงพอ ส่วนใหญ่ต้องการหนังสือประเภทบันเทิงมากกว่าประเภทสารคดีที่ให้ความรู้ โดยเฉพาะนิทานพื้นบ้าน เป็นหนังสือประเภทบันเทิงที่ครูต้องการมากที่สุด ถ้าเป็นหนังสือประเภทสารคดีที่ให้ความรู้ ครูต้องการหนังสือที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการท่องเที่ยวมากที่สุด นอกจากนี้ยังต้องการภาพประกอบที่ให้อารมณ์ขันต่อเด็ก สำนวนภาษาที่เป็นภาษาพูดของเด็ก ปกหนังสือที่ทำด้วยผ้าหรือพลาสติกและตัวหนังสือขนาดใหญ่ ข้อเสนอแนะของผู้วิจัยสำหรับสำนักงานประถมศึกษาแห่งชาติ กระทรวงศึกษาธิการ ในด้านการรับครูเพื่อทำการสอนชั้นอนุบาลในโรงเรียนทุกแห่ง ควรเป็นครูที่มีความรู้ทางจิตวิทยาเด็กเล็ก และในด้านหลักสูตรควรกำหนดหนังสือให้เป็นแนวเดียวกัน เพื่อเด็กอนุบาลจะได้มีพื้นความรู้ระดับเดียวกัน ก่อนที่จะเข้าไปเรียนชั้นประถมต่อไป สำหรับผู้ผลิตหนังสือสำหรับเด็ก ควรจัดทำหนังสือประเภทนิทานประกอบภาพโดยเฉพาะนิทานพื้นบ้าน หนังสือสารคดีเกี่ยวกับการท่องเที่ยว โดยจัดรูปเล่มให้มีลักษณะดึงดูดความสนใจ ตั้งแต่การออกแบบปก การใช้กระดาษสีหลายสี ภาพประกอบที่ให้อารมณ์ขัน และตัวอักษรขนาดใหญ่ สำหรับครูควรปรับปรุงวิธีการสอนที่จะใช้หนังสือเป็นเครื่องมือในการพัฒนาด้านสังคมให้กับเด็กให้มากขึ้น สำหรับผู้ปกครอง ครู และบรรณารักษ์ ควรเสนอหนังสือให้เด็กเมื่อเด็กมีความพร้อมเพียงพอ เพื่อให้เด็กมีความรู้สึกที่ดีต่อหนังสือ และรักการอ่านต่อไป สำหรับผู้เขียนหนังสือสำหรับเด็ก ควรใช้ภาษาที่ง่ายและควรแทรกเนื้อหาเกี่ยวกับคุณธรรมเพื่อสอนใจเด็กตั้งแต่เยาว์วัย

Share

COinS