Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การสร้างบทเรียนโปรแกรมสื่อประสมในการใช้ และบำรุงรักษาเครื่องฉายไสลต์ เครื่องฉายฟิล์มตริป เครื่องฉายข้ามศีรษะ เครื่องบันทึกเสียง สำหรับครูมัธยม สังกัดกรมสามัญศึกษา

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

A Construction of multi media programmed instruction manual in utilizing and maintenance of slide, Filmstrip, overhead projectors ad tape recorder for the secondary school teacher in the general education department

Year (A.D.)

1981

Document Type

Thesis

First Advisor

สุนันท์ ปัทมาคม

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

ครุศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

โสตทัศนศึกษา

DOI

10.58837/CHULA.THE.1981.53

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างและหาผลของการเรียนรู้บทเรียนแบบโปรแกรมสื่อประสมในการใช้และบำรุงรักษาเครื่องฉายสไลด์ เครื่องฉายฟิล์มสตริบ เครื่องฉายภาพข้ามศีรษะ เครื่องบันทึกเสียงสำหรับครูมัธยมสังกัดกรมสามัญศึกษา ตามเกณฑ์มาตรฐาน 90/90 ผู้วิจัยได้ดำเนินการสร้างบทเรียนแบบโปรแกรมชนิดเส้นตรง แบบเป็นเล่มและแบบสไลด์เทป พร้อมกันนี้ได้สร้างและหาประสิทธิภาพแบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนบทเรียนแบบโปรแกรม 4 ชุด หลังจากนั้นผู้วิจัยได้นำแบบทดสอบและบทเรียนแบบโปรแกรมไปดำเนินการทดสอบตามลำดับขั้นดังนี้ ทดลองขั้นที่หนึ่งคนและขั้นกลุ่มเล็ก เพื่อปรับปรุงบทเรียนและทดลองขั้นกลุ่มใหญ่กับครูมัธยมสังกัดกรมสามัญศึกษาจำนวน 60 คน โดยให้ผู้เรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียนแล้วจึงศึกษาบทเรียน หลังจากนั้นจึงให้ทำแบบทดสอบหลังเรียน นำข้อมูลที่ได้มาทำการวิเคราะห์เพื่อหาประสิทธิภาพของบทเรียนแบบโปรแกรมตามเกณฑ์มาตรฐาน 90/90 และวิเคราะห์หาค่าความแตกต่างระหว่างคะแนนเฉลี่ยของคะแนนแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน โดยการทดสอบค่าซี (Z –test) ผลการวิจัยปรากฏว่าบทเรียนแบบโปรแกรมสื่อประสมที่สร้างขึ้นมีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่ตั้งไว้ ดังนี้บทเรียนแบบโปรแกรมแบบเล่ม เรื่อง เครื่องฉายสไลด์ เครื่องฉายภาพข้ามศีรษะ เครื่องบันทึกเสียง มีประสิทธิภาพ 96.27/97.33 97.41/98.16 96.50/96.33 ตามลำดับ และบทเรียนแบบโปรแกรมสไลด์เทปเรื่องเครื่องฉายฟิล์มสตริป มีประสิทธิภาพ 95.33/96.75 จากการวิเคราะห์หาค่าความแตกต่างระหว่างคะแนนเฉลี่ยของคะแนนแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนบทเรียนแบบโปรแกรมปรากฏว่าแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .01 ข้อเสนอแนะ ควรมีการส่งเสริมให้มีการสร้างบทเรียนแบบโปรแกรมในเรื่องที่เกี่ยวกับการผลิตสื่อการสอนอย่างง่ายเพื่อใช้เป็นคู่มือสำหรับศึกษาด้วยตนเอง สำหรับครูมัธยมและผู้สนใจทั่วไป

Share

COinS