Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การใช้วัสดุจากการเกษตรเร่งการย่อยสลายสารพอลิไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอนโดยจุลินทรีย์ในดิน

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Utilization of agricultural materials to enhance microbial degradation of polycyclic aromatic hydrocarbons in soil

Year (A.D.)

2001

Document Type

Thesis

First Advisor

กาญจณา จันทองจีน

Faculty/College

Faculty of Science (คณะวิทยาศาสตร์)

Degree Name

วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

จุลชีววิทยาทางอุตสาหกรรม

DOI

10.58837/CHULA.THE.2001.881

Abstract

ได้คัดเลือกวัสดุการเกษตรเพื่อใช้ในการทดลองได้แก่ ฟางข้าว เปลือกถั่ว และใบจามจุรีโดยบดและผสมลงในดินทรายที่ทำให้ปนเปื้อนด้วยสารพอลิไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอนได้แก่ ฟีแนนทรีน ฟลูออแรนธีน และไพรีนความเข้มข้น 0.1 มก./ดิน 1 กรัม โดยชั่งดิน 1.8 กรัม ผสมวัสดุการเกษตร 0.2 กรัม บรรจุลงในขวดแก้วฝาเกลียว ปรับความชื้นของดินผสมให้มีค่าเท่ากับ 60% ของความจุสูงสุดในการอุ้มน้ำ บ่มไว้ที่อุณหภูมิ 30 [องศาเซลเซียส] ในที่มืดทุกๆ 14 วัน นำตัวอย่าง 1 หลอดพร้อมหลอดควบคุมไปสกัด และวิเคราะห์ปริมาณสาร PAHs ทั้ง 3 ชนิดที่เหลืออยู่ด้วย HPLC พบว่าการเติมเปลือกถั่ว หรือใบจามจุรีลงในดินทำให้สาร PAHs ทั้ง 3 ชนิดลดลงอย่างรวดเร็ว โดยตรวจไม่พบฟีแนนทรีนในวันที่ 28 ส่วนฟลูออแรนธีน และไพรีนตรวจไม่พบในวันที่ 42 ของการทดลอง แต่พบว่าการเติมฟางข้าวลงในดินไม่สามารถเร่งสลายสาร PAHs ทั้ง 3 ชนิดได้ จึงได้เลือกใช้เปลือกถั่วและใบจามจุรีมาใช้ในการศึกษา และพบว่าปริมาณสาร PAHs จะลดลงอย่างชัดเจนในดินผสมเปลือกถั่วหรือใบจามจุรีที่ไม่ได้ฆ่าเชื้อเท่านั้น ขณะที่ปริมาณสารPAHs ที่ลดลงในดิน ดินผสมเปลือกถั่วปลอดเชื้อ หรือใบจามจุรีปลอดเชื้อ ไม่แตกต่างจากชุดควบคุมแสดงให้เห็นว่าปัจจัยทางชีวภาพาจากเปลือกถั่วหรือใบจามจุรีเป็นผลทำให้เกิดการย่อยสลายสาร PAHs และเมื่อตรวจแบคทีเรียที่สามารถย่อยสลายสารฟีแนนทรีนที่เกิดขึ้นในชุดทดลองโดยนับจำนวนบนอาหารเลี้ยงเชื้อ CFMM ที่พ่นทับด้วยสารละลายฟีแนนทรีน จะตรวจพบได้เฉพาะในดินที่เติมเปลือกถั่วหรือใบจามจุรีไม่ได้ฆ่าเชื้อเท่านั้น โดยจำนวนแบคทีเรียที่ย่อยสลายฟีแนนทรีนที่เพิ่มขึ้นสอดคล้องกับปริมาณฟีแนนทรีนที่ลดลง ค่า bioavailability ของสารPAHs ในดินผสมโดยใช้ค่า extractability โดยตัวทำละลายไดคลอโรมีเทนเมื่อทดลองผสมสาร PAHs ในเปลือกถั่ว และใบจามจุรี พบว่าสามารถสกัดสาร PAHs ออกจากใบจามจุรีได้มากกว่าเปลือกถั่ว และเมื่อผสมเปลือกถั่วหรือใบจามจุรีลงไปในดินที่ปนเปื้อน PAHs ในสภาวะควบคุมเดียวกัน จะสามารถสกัด PAHs จากดินผสมใบจามจุรีได้มากกว่าดิน และดินผสมเปลือกถั่ว เมื่อนำเปลือกถั่ว และใบจามจุรีไปส่องภายใต้กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนแบบ S.E.M. พบว่าเปลือกถั่วมีรูพรุนที่ซับซ้อนมากกว่า ดังนั้นอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดผลการทดลองนี้ ได้คัดเลือกวัสดุการเกษตรเพื่อใช้ในการทดลองได้แก่ ฟางข้าว เปลือกถั่ว และใบจามจุรีโดยบดและผสมลงในดินทรายที่ทำให้ปนเปื้อนด้วยสารพอลิไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอนได้แก่ ฟีแนนทรีน ฟลูออแรนธีน และไพรีนความเข้มข้น 0.1 มก./ดิน 1 กรัม โดยชั่งดิน 1.8 กรัม ผสมวัสดุการเกษตร 0.2 กรัม บรรจุลงในขวดแก้วฝาเกลียว ปรับความชื้นของดินผสมให้มีค่าเท่ากับ 60% ของความจุสูงสุดในการอุ้มน้ำ บ่มไว้ที่อุณหภูมิ 30 [องศาเซลเซียส] ในที่มืดทุกๆ 14 วัน นำตัวอย่าง 1 หลอดพร้อมหลอดควบคุมไปสกัด และวิเคราะห์ปริมาณสาร PAHs ทั้ง 3 ชนิดที่เหลืออยู่ด้วย HPLC พบว่าการเติมเปลือกถั่ว หรือใบจามจุรีลงในดินทำให้สาร PAHs ทั้ง 3 ชนิดลดลงอย่างรวดเร็ว โดยตรวจไม่พบฟีแนนทรีนในวันที่ 28 ส่วนฟลูออแรนธีน และไพรีนตรวจไม่พบในวันที่ 42 ของการทดลอง แต่พบว่าการเติมฟางข้าวลงในดินไม่สามารถเร่งสลายสาร PAHs ทั้ง 3 ชนิดได้ จึงได้เลือกใช้เปลือกถั่วและใบจามจุรีมาใช้ในการศึกษา และพบว่าปริมาณสาร PAHs จะลดลงอย่างชัดเจนในดินผสมเปลือกถั่วหรือใบจามจุรีที่ไม่ได้ฆ่าเชื้อเท่านั้น ขณะที่ปริมาณสารPAHs ที่ลดลงในดิน ดินผสมเปลือกถั่วปลอดเชื้อ หรือใบจามจุรีปลอดเชื้อ ไม่แตกต่างจากชุดควบคุมแสดงให้เห็นว่าปัจจัยทางชีวภาพาจากเปลือกถั่วหรือใบจามจุรีเป็นผลทำให้เกิดการย่อยสลายสาร PAHs และเมื่อตรวจแบคทีเรียที่สามารถย่อยสลายสารฟีแนนทรีนที่เกิดขึ้นในชุดทดลองโดยนับจำนวนบนอาหารเลี้ยงเชื้อ CFMM ที่พ่นทับด้วยสารละลายฟีแนนทรีน จะตรวจพบได้เฉพาะในดินที่เติมเปลือกถั่วหรือใบจามจุรีไม่ได้ฆ่าเชื้อเท่านั้น โดยจำนวนแบคทีเรียที่ย่อยสลายฟีแนนทรีนที่เพิ่มขึ้นสอดคล้องกับปริมาณฟีแนนทรีนที่ลดลง ค่า bioavailability ของสารPAHs ในดินผสมโดยใช้ค่า extractability โดยตัวทำละลายไดคลอโรมีเทนเมื่อทดลองผสมสาร PAHs ในเปลือกถั่ว และใบจามจุรี พบว่าสามารถสกัดสาร PAHs ออกจากใบจามจุรีได้มากกว่าเปลือกถั่ว และเมื่อผสมเปลือกถั่วหรือใบจามจุรีลงไปในดินที่ปนเปื้อน PAHs ในสภาวะควบคุมเดียวกัน จะสามารถสกัด PAHs จากดินผสมใบจามจุรีได้มากกว่าดิน และดินผสมเปลือกถั่ว เมื่อนำเปลือกถั่ว และใบจามจุรีไปส่องภายใต้กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนแบบ S.E.M. พบว่าเปลือกถั่วมีรูพรุนที่ซับซ้อนมากกว่า ดังนั้นอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดผลการทดลองนี้

Share

COinS