Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
การศึกษาเปรียบเทียบการบริหารงานฝึกอบรมระหว่างองค์การ ของรัฐวิสาหกิจและธุรกิจเอกชนขนาดใหญ่
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
comparative study of training administration between large stste and private enterprises in Thailand
Year (A.D.)
1982
Document Type
Thesis
First Advisor
ธนิษฏ์ชัย นาคะสุวรรณ
Second Advisor
ไพลิน ผ่องใส
Faculty/College
Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)
Degree Name
บัญชีมหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
การบัญชี
DOI
10.58837/CHULA.THE.1982.363
Abstract
ในปัจจุบันองค์การต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นรัฐกิจ รัฐวิสาหกิจ หรือธุรกิจเอกชน ต่างก็ให้ความสนใจในการฝึกอบรมมาก ในที่นี้จึงได้เลือกศึกษาเปรียบเทียบในด้านวัตถุประสงค์ของการฝึกอบรม ความจำเป็นของการฝึกอบรม ระดับของการฝึกอบรม การดำเนินการฝึกอบรม เทคนิคการฝึกอบรม อุปกรณ์และสถานที่ฝึกอบรม การประเมินผลและติดตามผลการฝึกอบรม รวมทั้งปัญหาและอุปสรรคของการฝึกอบรม เพื่อให้ทราบลักษณะที่คล้ายกันและแตกต่างกันอย่างไร มีจุดเด่นและจุดอ่อนอย่างไร การศึกษาครั้งนี้ใช้ตัวอย่างรัฐวิสาหกิจ 9 แห่ง และ ธุรกิจเอกชน 6 แห่ง โดยทำการศึกษาทั้งทางด้านข้อมูล เอกสารต่าง ๆ และการสำรวจ ทั้งในรูปของการสัมภาษณ์ และการออกแบบสอบถาม จากการศึกษาสามารถสรุปผลได้ดังต่อไปนี้ ในด้านวัตถุประสงค์ของการฝึกอบรมสำหรับองค์การ ปรากฏว่ารัฐวิสาหกิจและธุรกิจเอกชนเน้นมากที่สุดคือ เพื่อพัฒนาผลงานของการปฏิบัติงานให้ดี และเตรียมกำลังคนไว้รองรับการขยายตัวขององค์การในด้านวัตถุประสงค์ของการฝึกอบรมสำหรับพนักงาน ปรากกว่ารัฐวิสาหกิจและธุรกิจเอกชน เน้นมากที่สุด คือ เพื่อพัฒนาฝีมือ ความสามารถ ทัศนคติ และบุคลิกในการปฏิบัติงาน และเพื่อเรียนรู้งาน วิธีการ และระเบียบการปฏิบัติงานที่มีการนำเอาวิทยาการใหม่ ๆ เข้ามาใช้ หรือ เปลี่ยนแปลงไป ในด้านการสำรวจหาความจำเป็นในการฝึกอบรม ปรากฏว่ารัฐวิสาหกิจและธุรกิจเอกชนมีการปฏิบัติที่คล้ายกันมากทั้งในด้านลักษณะของการสำรวจ และเทคนิคที่ใช้ในการหาความจำเป็นในการฝึกอบรม ในด้านระดับของการจัดฝึกอบรม ปรากฏว่ารัฐวิสาหกิจให้ความสำคัญในระดับพนักงาน คนงาน และช่างเทคนิคมากกว่าธุรกิจเอกชน แต่ธุรกิจเอกชนให้ความสำคัญในระดับผู้บริหารชั้นต้น ผู้บริหารชั้นกลาง และผู้บริหารชั้นสูง มากกว่ารัฐวิสาหกิจ ในด้านเทคนิคของการฝึกอบรมปรากฏว่า รัฐวิสาหกิจเลือกใช้เทคนิคในการฝึกอบรมมากวิธีกว่าธุรกิจเอกชน ในด้านการดำเนินการฝึกอบรม รัฐวิสาหกิจ และธุรกิจเอกชน มีการจัดฝึกอบรมขึ้นเอง ในกรณีที่มีการจัดส่งคนไปเข้ารับการฝึกอบรมภายนอก รัฐวิสาหกิจนิยมจัดส่งไปตามรัฐวิสาหกิจแห่งอื่น ๆ และสถาบันการศึกษา ซึ่งแตกต่างกับธุรกิจเอกชนคือ นิยมจัดส่งไปตามสมาคมหรือสถาบันทางธุรกิจ ในกรณีที่มีการจัดส่งคนไปอบรมหรือดูงานต่างประเทศนั้น รัฐวิสาหกิจและธุรกิจเอกชนต่างก็นิยมจัดส่งพนักงานในระดับผู้บริหารชั้นกลางไปมากที่สุด ในด้านที่เกี่ยวกับอุปกรณ์การฝึกอบรม สถานที่ และอุปกรณ์ผลิตเอกสารในการฝึกอบรมนั้นปรากฏว่าธุรกิจเอกชนมีความพร้อมมากกว่ารัฐวิสาหกิจ ในด้านการประเมินผลการฝึกอบรม รัฐวิสาหกิจและธุรกิจเอกชนมีวัตถุประสงค์เหมือนกันคือ เพื่อทราบประสิทธิผล และเพื่อทราบข้อบกพร่องในการฝึกอบรม สำหรับเทคนิคในการประเมินผลนั้น รัฐวิสาหกิจและธุรกิจเอกชนโดยส่วนใหญ่ใช้วิธีการสังเกต แบบสอบถาม การทดสอบ ควบคู่กันมากที่สุด ในด้านการติดตามผลการฝึกอบรมนั้น ธุรกิจเอกชนมีการติดตามผลการฝึกอบรมมากกว่ารัฐวิสาหกิจ สำหรับเทคนิคในการติดตามผลการฝึกอบรมนั้นคล้ายกันคือ ผู้บังคับบัญชาของผู้ผ่านการฝึกอบรมคอยสังเกตผลการปฏิบัติงานและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมไปในทางใด ในด้านที่เกี่ยวกับปัญหาในการฝึกอบรม ปรากฏว่า รัฐวิสาหกิจและธุรกิจเอกชนต่างก็มีปัญหาที่สำคัญที่สุดคล้ายกัน 4 ประการคือ ปัญหาเกี่ยวกับหน่วยงานอื่น ๆ ขององค์การไม่ได้ใช้ประโยชน์จากการฝึกอบรมอย่างมีประสิทธิผล ปัญหาเกี่ยวกับการสำรวจวิเคราะห์หาความจำเป็นในการฝึกอบรม ปัญหาเกี่ยวกับวิทยากรในด้านต่าง ๆ ปัญหาเกี่ยวกับอัตรากำลังเจ้าหน้าที่หน่วยฝึกอบรมไม่เพียงพอ ในที่นี้ได้ให้ข้อเสนอแนะเพื่อเป็นแนวทางในการแก้ปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้ไว้ด้วย
Creative Commons License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
สิทธิพลากุล, วิโรจน์, "การศึกษาเปรียบเทียบการบริหารงานฝึกอบรมระหว่างองค์การ ของรัฐวิสาหกิจและธุรกิจเอกชนขนาดใหญ่" (1982). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 54464.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/54464