Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

เศรษฐศาสตร์วิเคราะห์เกี่ยวกับอัตราค่าระวางขนส่งทางทะเล ของชมรมเดินเรือ : ศึกษาเฉพาะกรณีการขนส่งสินค้าออกของประเทศไทย

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

An economic analysis of the conference liner freight rates : a case study of the Thai exports shipment

Year (A.D.)

1982

Document Type

Thesis

First Advisor

ประจักษ์ ศกุนตะลักษณ์

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

เศรษฐศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

เศรษฐศาสตร์

DOI

10.58837/CHULA.THE.1982.19

Abstract

การขนส่งสินค้าออกของประเทศไทยส่วนใหญ่นั้นกระทำทางทะเล โดยที่กองเรือพาณิชย์ของประเทศมีขนาดเล็กมาก จึงจำต้องอาศัยบริการขนส่งของเรือต่างประเทศในการบรรทุกสินค้าออกดังกล่าวประมาณร้อยละ 95 ปัญหาที่เกิดขึ้นในการอาศัยบริการก็คือการรวมกลุ่มเป็นชมรมเรือของบรรดาเรือต่างประเทศเพื่อผูกขาดในการกำหนดอัตราค่าระวางผลประการหนึ่งที่ตามมาก็คือการเปลี่ยนแปลงในระดับของอัตราค่าระวางที่มักจะสูงกว่าที่ควรซึ่งกลายเป็นภาระหนักตกอยู่กับผู้ส่งสินค้าออก เนื่องจากค่าใช้จ่ายด้านค่าระวางเป็นสัดส่วนที่สูงเมือเทียบกับราคาส่งออก (f.o.b.) กลุ่มผู้ส่งสินค้าออก จึงพยายามหามาตรการที่จะใช้ในการต่อรองกับชมรมเรือ เพื่อขอให้ลดอัตราค่าระวางลงให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม การต่อรองเพื่อขอลดหย่อนอัตราระวางกับชมรมเรือ จะกระทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ กลุ่มผู้ส่งสินค้าออก จำเป็นต้องทราบถึงปัจจัยต่างๆ ที่คาดว่าจะมีอิทธิพลกำหนดโครงสร้างและระดับอัตราค่าระวางโดยชมรมเรือต่างๆ สำหรับกรณีประเทศไทยยังไม่ได้มีการศึกษาถึงเรืองนี้อย่างสมบูรณ์มาก่อน ดังนั้น วิทยานิพนธ์เรื่องนี้จึงมีจุดมุ่งหมายที่จะทำการศึกษาถึงความสัมพันธ์ของปัจจัยต่างๆ ที่คาดว่ามีต่อการกำหนดโครงสร้างและระดับอัตราค่าระวางโดยชมรมเรือต่างๆในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งสินค้าออกของประเทศไทยโดยได้แบ่งการศึกษาออกเป็น 5 บทดังนี้ บทที่ 1 เป็นการกล่าวถึงบทนำทั่วๆ ไปเกี่ยวกับโครงสร้างการขนส่งทางทะเลตลอดจนความสำคัญของการขนส่งทางทะเล บทที่ 2 เป็นการศึกษาถึงอุปสงค์ที่มีต่อการขนส่งทางทะเลและอุปทานของเรือของโลกเปรียบเทียบกับการขนส่งทางทะเลของไทยตลอดจนลักษณะและการดำเนินงานของชมรมเรือที่ขนส่งสินค้าออกจากประเทศไทย บทที่ 3 เป็นการศึกษาแนวทฤษฎีเกี่ยวกับการกำหนดอัตราค่าระวางของชมรมโดยใช้หลักการกำหนดอัตราค่าระวางเท่าที่จะทำให้การขนส่งดำรงอยู่ได้ นอกจากนี้ยังศึกษาการเคลื่อนไหวของอัตราค่าระวางและราคาค่าระวาง ซึ่งราคาค่าระวางประกอบด้วยอัตราค่าระวางและค่าธรรมเนียมต่างๆ บทที่ 4 เป็นการวิเคราะห์ตัวแปรที่มีอิทธิพลต่อการกำหนดระดับและโครงสร้างอัตราค่าระวางตัวแปรที่ใช้นี้แบ่งออกเป็นปัจจัยด้านอุปสงค์ ปัจจัยด้านต้นทุนและลักษณะสินค้า การวิเคราะห์นี้ใช้วิธีการ Ordinary Least Squares (OLS) ซึ่งได้ใช้ข้อมูลการขนส่งรายปีของประเทศไทยปี พ.ศ. 2521ตลอดจนการศึกษาถึงผลกระทบของอัตราค่าระวางและค่าธรรมเนียมที่มีต่อราคาค่าระวางและความมีเสถียรภาพของอัตราระวางและราคาค่าระวาง บทที่ 5 เป็นบทสรุปและแสดงข้อเสนอแนะที่ได้จากการศึกษา ซึ่งกล่าวได้โดยย่อดังต่อไปนี้ :- (1) ระดับอัตราค่าระวาง ตัวแปรที่มีอิทธิพลต่อการกำหนดระดับอัตราค่าระวางได้แก่ระยะทาง ปริมาณการขนส่ง จำนวนเรือนอกชมรมที่เข้ามาทำการแข่งขันและการรวมกลุ่มกันตั้งชมรมขึ้นมา สินค้าที่นำมาใช้ในการศึกษามีทั้งหมด 16 ชนิด (2) โครงสร้างอัตราค่าระวางตัวแปรที่มีความสำคัญต่อการกำหนดโครงสร้างอัตราค่าระวางได้แก่ stowage factor มูลค่าต่อหน่วยของสินค้าที่ทำการขนส่ง และสินค้าแช่เย็น ส่วนตัวแปรที่มีความสำคัญรองลงไปได้แก่ ปริมาณสินค้าที่ทำการขนส่งและตัวแปรที่มีอำนาจในการอธิบายอัตราค่าระวางได้ค่อนข้างต่ำ คือ ลักษณะของสินค้าในการเก็บบรรทุกและอัตราส่วนของสินค้าออกชนิดหนึ่ง ต่อสินค้าชนิดเดียวกันที่มาจากแหล่งอื่น (3) ผลกระทบของอัตราระวางที่มีต่อราคาค่าระวางเมื่อค่าธรรมเนียมคงที่จะมากกว่าผลกระทบที่เกิดจากค่าธรรมเนียมเมื่ออัตราค่าระวางคงที่ (4) ราคาค่าระวางจะเคลื่อนที่ไปในทิศทางเดียวกันกับอัตราค่าระวาง (5) อัตราค่าระวางมีเสถียรภาพมากกว่าราคาค่าระวาง อย่างไรก็ดีการศึกษานี้จะเห็นว่าเกิดมี Rate discrimination เกิดขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว ในแง่ที่มูลค่าต่อหน่วยมีความสัมพันธ์กับอัตราค่าระวาง และอีกประการหนึ่งค่าธรรมเนียมมีบทบาทที่สำคัญต่อราค่าค่าระวาง ดังนั้น รัฐบาลควรจะกำหนดนโยบายพาณิชยนาวีขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้

Share

COinS