Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การวางผังมหาวิทยาลัยและแผนผังแม่บท มหาวิทยาลัยขอนแก่น

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Campus planning and Khon Kaen University master plan

Year (A.D.)

1981

Document Type

Thesis

First Advisor

วิมลสิทธิ์ ทรยางกรู

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

สถาปัตยกรรมศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

สถาปัตยกรรม

DOI

10.58837/CHULA.THE.1981.498

Abstract

สภาพเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบันมีผลโดยตรงต่อการพยายามที่จะให้การใช้ทรัพยากรประเภทต่างๆ เกิดประโยชน์สูงสุด งานออกแบบแผนผังแม่บทสำหรับวิทยาเขตเป็นวิธีการหนึ่งในหลายๆ วิธีการที่ถูกนำมาช่วยให้การบริหารสภาพแวดล้อมกายภาพของมหาวิทยาลัยเกิดประสิทธิภาพสูงสุดได้ แนวคิดที่ใช้ในการออกแบบแผนผังแม่บทโดยทั่วไปมักจะจัดกลุ่มอาคารต่างๆ ให้อยู่ในลักษณะที่กระชับแน่น โดยถือระยะเวลา 10 นาทีในการเปลี่ยนชั้นเรียนเป็นหลัก กล่าวคือให้สามารถเดินเท้าและกลับระหว่างคณะต่างๆ กับส่วนใช้สอยร่วมกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งหอสมุดกลาง โดยใช้เวลา 10 นาที ซึ่งคิดเป็นระยะทางประมาณ 800 เมตร ส่วนที่อยู่รอบนอกออกไปมักจะเป็นเขตพักอาศัยกีฬาและพักผ่อน การจัดองค์ประกอบจะพิจารณาให้มีการยืดหยุ่นเพื่อรับกับความเปลี่ยนแปลงได้ แบบที่นิยมกันมากคือให้มีการขยายตัวได้ตามแนวของเส้นแกน (Linear Pattern of Growth) ระบบสัญจรที่มักจะถูกเลือกใช้คือการให้ความสำคัญแก่ทั้งยวดยานและทางเดินเท้า เป็นเขตใช้สอยร่วมกันและเขตการศึกษามักจะปลอดจากยวดยานและมีทางเดินเท้าเชื่อมโยงถึงกันหมด มหาวิทยาลัยขอนแก่นได้เติบโตมานานกว่า 10 ปี โดยไม่มีแผนผังแม่บท จึงทำให้สภาพแวดล้อมกายภาพในปัจจุบันไม่เกื้อกูลต่อการบริหารมหาวิทยาลัยให้ดำเนินไปได้ด้วยดี ดังนั้นจึงมีความจำเป็นต้องจัดทำแผนผังแม่บทเพื่อใช้ในการกำหนดแนวทางของสภาพแวดล้อมใหม่ให้เป็นไปอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับการขยายตัวด้านอื่นๆ ตามแผนพัฒนามหาวิทยาลัย ในการออกแบบแผนผังแม่บทครั้งนี้ ไม่รวมหน่วยงานต่างๆ ในศูนย์แพทยศาสตร์ซึ่งมีการวางแผนผังแม่บทโดยเฉพาะไปก่อนแล้ว แต่ผลกระทบต่อกันที่อาจจะเกิดขึ้นจะยึดถือประโยชน์โดยส่วนรวมของมหาวิทยาลัยเป็นหลัก นอกจากนั้นการออกแบบแผนผังแม่บทก็ไม่ได้รวมการจัดที่พักอาศัยสำหรับอาจารย์ ข้าราชการและลูกจ้างด้วย สำหรับมหาวิทยาลัยขอนแก่นนั้นมีแนวโน้มว่าจะต้องเป็นมหาวิทยาลัยที่เปิดสอนครบทุกสาขาวิชา ยกเว้นนิติศาสตร์ และจำนวนนักศึกษาจะมีจำนวนประมาณ 15,000 คน การจัดองค์ประกอบทางกายภาพที่จะให้สอดคล้องกับระบบบริหาร จำเป็นต้องย้ายคณะศึกษาศาสตร์ขึ้นไปรวมกลุ่มกับกลุ่มสาขาวิชาสังคมศาสตร์ หอสมุดกลางและสำนักงานอธิการบดีย้ายไปอยู่บริเวณใจกลางระหว่างกลุ่มคณะวิชาทั้งหลาย ซึ่งบริเวณดังกล่าวจะเป็นเขตที่ใช้สอยร่วมกัน ซึ่งมีอาคารเรียงตัวกันเป็นแกนยาย และเปิดหัวท้ายเพื่อการขยายตัวได้ทำให้มีการเชื่อมกลุ่มคณะในสาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพทั้งหมดเข้ากับกลุ่มคณะในสาขาอื่นๆ จึงทำให้สะดวกในการใช้ทรัพยากรร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ การจัดระบบสัญจรได้เน้นทางเดินเท้ามากกว่าถนน แต่ผู้ใช้ยวดยานก็สามารถเดินจากที่จอดรถซึ่งกระจายอยู่รอบเขตการศึกษาถึงส่วนต่างๆ ได้โดยสะดวกและรวดเร็วเช่นกัน ขั้นตอนในการขยายตัวเพื่อให้เป็นไปตามแผนผังแม่บทนั้น ได้กำหนดให้สอดคล้องกับการขยายตัวของโปรแกรมการศึกษา โดยกำหนดเป็นช่วงระยะละ 5 ปี รวม 4 ช่วง ระบบถนนเดิม ซึ่งถูกยกเลิกใช้ตามแผนผังแม่บทนั้น จะสามารถใช้เป็นทางเดินเท้าในช่วงระยะแรกๆ จนกว่าจะหมดสภาพการใช้ ทำให้ไม่เกิดความสูญเปล่าของสภาพแวดล้อมกายภาพเดิม รวมงบประมาณในการลงทุนทั้งสิ้นประมาณ 1,070 ล้านบาท.

Share

COinS