Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยบางประการและการดูแลตนเอง ของผู้ป่วยโรคเบาหวาน
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
Relationship between selected factors and self-care practice in diabetic patients
Year (A.D.)
1981
Document Type
Thesis
First Advisor
นพรัตน์ ผลาพิบูลย์
Faculty/College
Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)
Degree Name
ครุศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
พยาบาลศึกษา
DOI
10.58837/CHULA.THE.1981.155
Abstract
การวิจัยนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อหาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยบางประการ กับการดูแลตนเองของผู้ป่วยโรคเบาหวาน จากโรงพยาบาลในเขตกรุงเทพมหานคร กลุ่มตัวอย่างประชากร เป็นผู้ป่วยโรคเบาหวานที่มาตรวจที่คลินิกโรคเบาหวาน แผนกผู้ป่วยนอกของโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า โรงพยาบาลศิริราช และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์สภากาชาดไทย คัดเลือกตัวอย่างประชากรโดยวิธีเก็บตัวอย่างโดยบังเอิญ (Accidental Sampling) จำนวน 200 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสัมภาษณ์ที่ผู้วิจัยได้สร้างขึ้นเอง ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ แบบสัมภาษณ์การดูแลตนเอง และแบบสัมภาษณ์ความรู้เรื่องโรคเบาหวาน นำไปหาความตรงตามเนื้อหาและความเที่ยงของแบบสัมภาษณ์ในแต่ละส่วน โดยใช้สูตรสัมประสิทธิ์แอลฟ่า และคูเดอร์ริชาร์ดสันสูตร 20 ได้ค่าความเที่ยง 0.69 และ 0.96 ตามลำดับ การวิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าร้อยละ คะแนนเฉลี่ยสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์พหุคูณพร้อมกับทดสอบค่าเอฟ (F – test) และสร้างสมการทำนายที่ดีที่สุด โดยการวิเคราะห์พหุคูณแบบเพิ่มตัวแปรเป็นขั้น ๆ (Stepwise Multiple Regression Analysis) แบบฟอร์เวอร์ดอินคลูชัน (Forward Inclusion) ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้ 1. คะแนนเฉลี่ยระดับความรู้เรื่องโรคเบาหวานของผู้ป่วยโรคเบาหวาน อยู่ในระดับปานกลาง 2. คะแนนเฉลี่ยระดับความสามารถในการดูแลตนเองของผู้ป่วยโรคเบาหวานมีในระดับต่ำ 3. เพศ ไม่มีความสัมพันธ์กับการดูแลตนเองของผู้ป่วยโรคเบาหวาน 4. อายุ ไม่มีความสัมพันธ์กับการดูแลตนเองของผู้ป่วยโรคเบาหวาน 5. ระดับการศึกษา มีความสัมพันธ์ทางบวกกับการดูแลตนเองของผู้ป่วยโรคเบเหวานอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 6. รายได้ของครอบครัวมีความสัมพันธ์ทางบวกกับการดูแลตนเองของผู้ป่วยโรคเบาหวานอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 7. ระยะเวลาของการรักษามีความสัมพันธ์ทางลบกับการดูแลตนเองของผู้ป่วยโรคเบาหวานอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 8. ความรู้เรื่องโรคเบาหวานมีความสัมพันธ์ทางบวกกับการดูแลตนเองของผู้ป่วยเบาหวานอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 9. ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์พหุคูณระหว่างการดูแลตนเองกับตัวทำนายทั้ง 6 ตัว คือ เพศ อายุ ระดับการศึกษา รายได้ของครอบครัว ระยะเวลาของการรักษา ความรู้เรื่องโรคเบาหวาน (X₆ ) รายได้ของครอบครัว (X₄ ) และระยะเวลาการรักษา (X₅ ) ซึ่งกลุ่มตัวทำนายนี้สามารถอธิบายความแปรปรวนของการดูแลตนเองได้ร้อยละ 43.69 ความคลาดเคลื่อนมาตรฐานในการทำนายเท่ากับ 9.193 โดยมีสมการในรูปคะแนนมาตรฐานและคะแนนดิบดังนี้ คือ Z’ = 0.492 Z[subscript6] + 0.194 Z[subscript 4]+ (- 0.102) Z[subscript 5] Y’ = 35.802 + 0.315 X₆ + 1.678 X₄ + (- 1.132) X₅
Creative Commons License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
นันท์ศุภวัฒน์, เรมวล, "ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยบางประการและการดูแลตนเอง ของผู้ป่วยโรคเบาหวาน" (1981). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 54093.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/54093