Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การถือครองที่ดินในประเทศไทย พ.ศ. 2444-2475 : ศึกษาเฉพาะกรณีมณฑลกรุงเทพฯ

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Land holding in Thailand from 1901 to 1932 : a case study of Monthon Krungthep

Year (A.D.)

1981

Document Type

Thesis

First Advisor

ธิติมา พิทักษ์ไพรวัน

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

อักษรศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

ประวัติศาสตร์

DOI

10.58837/CHULA.THE.1981.554

Abstract

สนธิสัญญาบาวริ่ง พ.ศ. 2398 ทำให้ที่ดินเป็นทรัพย์สินที่มีราคาสูงขึ้น และทำให้ระบบการค้าเปลี่ยนแปลงเป็นการค้าเสรี ข้าวกลายเป็นสินค้าออกที่สำคัญ การค้าขยายตัวขึ้นเป็นเหตุให้มีการขยายตัวของการพาณิชยกรรมใจกลางพระนคร และเมืองรอบนอกของมณฑลกรุงเทพฯขยายตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเกษตรกรรมโดยอาศัยที่ดินริมฝั่งคลองที่นาขึ้นใหม่ทั้งโดยเอกชนและโดยรัฐบาล บรรดาราษฎรสามัญ ชาวต่างชาติที่พำนักอยู่ในไทย พระบรมวงศานุวงศ์และข้าราชการ เข้าจับจองที่ดินทำกินมากมายจนเป็นเหตุให้มีข้อพิพาทในเรื่องกรรมสิทธิ์ที่ดิน จนรัฐบาลต้องออกพระราชบัญญัติโฉนดที่ดิน พ.ศ. 2444 เพื่อระงับกรณีพิพาท วิทยานิพนธ์ฉบับนี้มุ่งศึกษาวิเคราะห์สาเหตุการออกพระราชบัญญัติโฉนดที่ดิน ซึ่งมีสาเหตุจากกรณีพิพาทเรื่องกรรมสิทธิ์ที่ดินระหว่างราษฎรไทยด้วยกัน และระหว่างราษฎรไทยกับชาวต่างชาติที่พำนักอยู่ในไทย การเพิ่มรายได้จากภาษีที่ดินรวมทั้งผลภายหลังการออกโฉนดที่ดินที่ส่งผลกระทบต่อที่ดินของราษฎร ที่ดินหลวง ที่ธรณีสงฆ์ และที่ดินของชาวต่างชาติที่พำนักอยู่ในไทย จากการวิจัยพบว่า การออกโฉนดที่ดินนอกจากจะลดกรณีพิพาทเรื่องที่ดินแล้ว ยังช่วยให้การเก็บภาษีที่ดินได้เพิ่มขึ้น ความต้องการได้รับโฉนดที่ดินแสดงกรรมสิทธิ์แน่นอน ทำให้ชาวต่างชาติที่พำนักอยู่ในไทยและบทหลวงในคริสต์ศาสนายอมเสียภาษีและขึ้นศาลต่างประเทศของไทย นับเป็น ก้าวแรกของไทยที่จะได้รับเอกราชทางการศาลอย่างสมบูรณ์ใน พ.ศ. 2481 แม้ว่ารายได้จากภาษีอากรที่ดินจะจัดอยู่ในอันดับสูง แต่การประเมินเก็บภาษีที่ดินก็ยังไม่รัดกุม รัฐบาลจึงคิดจะปรับปรุงพระราชบัญญัติภาษีที่ดิน โดยให้เก็บตามราคาที่แท้จริงของที่ดินพร้อมทั้งยกเลิกอากรค่านาและอากรส่วนที่ไม่เป็นธรรม อีกทั้งรัฐบาลกำลังดำริจะเลิกอากรฝิ่นและอากรบ่อนเบี้ย จึงหวังว่าจะมีรายได้จากภาษีที่ดินที่ปรับปรุงใหม่มาชดเชย แต่เมื่อการปรับปรุงพระราชบัญญัติภาษีที่ดินตามราคาที่แท้จริงไม่เป็นผลสำเร็จ รัฐบาลจึงไม่อาจสละรายได้จากอากรค่านาและอากรค่าสวนที่เรียกเก็บตามแบบเดิมได้ ดังนั้นโครงการออกพระราชบัญญัติภาษีที่ดินจึงก้าวหน้าไปอย่างล่าช้า และยืดเยื้อมาจนกระทั่งเปลี่ยนแปลงการปกครองใน พ.ศ. 2475.

Share

COinS