Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมการสื่อสารกับความทันสมัยของผู้นำท้องถิ่น

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

The relationship between communication behavior and modernity of the community leaders

Year (A.D.)

1985

Document Type

Thesis

First Advisor

จุมพล รอดคำดี

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

นิเทศศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

การประชาสัมพันธ์

DOI

10.58837/CHULA.THE.1985.379

Abstract

การวิจัยเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมการสื่อสารกับความทันสมัยของผู้นำท้องถิ่น ครั้งนี้ ศึกษาเฉพาะผู้นำท้องถิ่นที่เข้าเรียนในหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาการปกครองท้องที่ รุ่นที่ 1 ของมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช จำนวน 727 คน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพฤติกรรมการสื่อสาร กับความทันสมัย และความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมการสื่อสารกับความทันสมัยของผู้นำท้องถิ่น เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบสอบถาม ซึ่งส่งไปยังผู้นำท้องถิ่นทางไปรษณีย์ มีผู้ตอบแบบสอบถามกลับเป็นจำนวน 585 คน คิดเป็นร้อยละ 80.47 ของกลุ่มตัวอย่าง การวิเคราะห์ข้อมูลแบ่งได้เป็น 2 ส่วน กล่าวคือ ส่วนที่เป็นการวิเคราะห์เชิงพรรณนา ใช้ค่าร้อยละ (Percentage) และส่วนที่เป็นการวิเคราะห์เพื่อทดสอบสมมติฐานใช้การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ด้วยค่าไคสแควร์ (Chi-square) ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน (Pearson product moment correlation) ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบพาเชียล (Partial correlation) และการวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณ (Multiple regression analysis) ด้วยการใช้โปรแกรมสำเร็จรูป SPSSx ผลการวิจัยที่สำคัญสรุปได้ดังนี้ 1. การติดต่อกับสังคมภายนอก การสื่อสารระหว่างบุคคล มีความสัมพันธ์กับการเปิดรับสื่อมวลชนเป็นค่าบวก ส่วนอายุและระดับการศึกษาเดิม พบว่า ไม่มีความสัมพันธ์กับการเปิดรับสื่อมวลชนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ กล่าวคือ คนที่มีการติดต่อกับสังคมภายนอกสูงหรือมีการสื่อสารระหว่างบุคคลสูง มีแนวโน้มที่จะมีการเปิดรับสื่อมวลชนในระดับสูง แต่สำหรับความแตกต่างด้านอายุหรือระดับการศึกษาเดิม ไม่สามารถใช้เป็นตัวชี้ให้เห็นแนวโน้มของการเปิดรับสื่อมวลชนได้ 2. ตัวแปรต่างๆ ได้แก่ ระดับการศึกษาเดิม การติดต่อกับสังคมภายนอก การสื่อสารระหว่างบุคคล ตัวแปรดังกล่าวแต่ละตัวแปรมีค่าความสัมพันธ์กับความทันสมัยเป็นค่าบวก ส่วนตัวแปรด้านอายุไม่มีความสัมพันธ์กับความทันสมัย กล่าวคือ คนที่มีระดับการศึกษาเดิมสูงหรือมีการติดต่อกับสังคมภายนอกสูงหรือมีการสื่อสารระหว่างบุคคลสูง มีแนวโน้มที่จะมีความทันสมัยในระดับสูง แต่สำหรับความแตกต่างด้านอายุไม่สามารถใช้เป็นตัวชี้ให้เห็นแนวโน้มของระดับความทันสมัยได้ 3. ความสัมพันธ์ระหว่างการเปิดรับสื่อมวลชนกับความทันสมัยเป็นค่าบวก กล่าวคือ คนที่มีการเปิดรับสื่อมวลชนในระดับสูง มีแนวโน้มที่จะมีความทันสมัยในระดับสูงด้วย 4. ค่าความสัมพันธ์ระหว่างระดับการศึกษาเดิม อายุ การติดต่อกับสังคมภายนอก การสื่อสารระหว่างบุคคล แต่ละตัวแปรกับความทันสมัย เมื่อยังมิได้ควบคุมความสัมพันธ์ของการเปิดรับสื่อมวลชนจะแตกต่างกับความสัมพันธ์ของตัวแปรดังกล่าว เมื่อควบคุมความสัมพันธ์ของการเปิดรับสื่อมวลชน แสดงให้เห็นว่า การเปิดรับสื่อมวลชนเป็นตัวแปรแทรกในกระบวนการทำให้ทันสมัย 5. การเปิดรับสื่อมวลชนเป็นตัวแปรที่อธิบายความทันสมัยได้ดีที่สุด โดยเฉพาะการเปิดรับหนังสือพิมพ์

Share

COinS