Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การจัดกลุ่มชนบทยากจนระดับหมู่บ้านในภาคเหนือของประเทศไทย

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Stratification of rural poverty area in Northern region of Thailand

Year (A.D.)

1984

Document Type

Thesis

First Advisor

สรชัย พิศาลบุตร

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

สถิติศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

สถิติ

DOI

10.58837/CHULA.THE.1984.543

Abstract

เพื่อที่จะให้พัฒนาพื้นที่ยากจนในชนบท ซึ่งเป็นจุดสำคัญของการพัฒนาประเทศบรรลุถึงเป้าหมาย ตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้อย่างมีประสิทธิภาพ ควรจะได้มีการวางแผนเพื่อกำหนดพื้นทีเป้าหมาย และลำดับความสำคัญของพื้นที่ที่ได้รับการพัฒนา รวมทั้งระยะของโครงการที่จะเข้าไปช่วยเหลือ ให้สอดคล้องกับปัญหาของสภาพความยากจนที่ประชาชนในเขตชนบทกำลังประสบอยู่เพื่อช่วยให้ประชาชนเหล่านั้นมีสภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และสามารถที่จะช่วยเหลือและพัฒนาตนเองได้ต่อไปในอนาคตในการวิจัยนี้ได้สร้างแบบจำลองที่ใช้แสดงสภาพพื้นฐานความยากจนของประชาชนในชนบทระดับหมู่บ้านในภาคเหนือของประเทศไทย ด้วยวิธีการวิเคราะห์การถดถอยเชิงซ้อน ตัวชี้นำต่างๆ ที่นำมาพิจาณานั้น กำหนดมาจากปัญหาสภาพพื้นฐานความยากจนที่ประชาชนในชนบทของประเทศไทยกำลังเผชิญอยู่ จากนั้นจึงนำเอาผลที่ได้จากแบบจำลองมาทำการจำแนกกลุ่มหมู่บ้านในเขตชนบทภาคเหนือของประเทศไทยออกเป็น 3 กลุ่ม และ 5 กลุ่ม จากการจัดกลุ่มหมู่บ้านในชนบทภาคเหนือทั้งสิ้น 11,061 หมู่บ้าน จาก 17 จังหวัด คือ กำแพงเพชร เชียงราย เชียงใหม่ ตาก นครสวรรค์ น่าน พะเยา พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ แพร่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน สุโขทัย อุตรดิตถ์ อุทันธานี นั้นปรากฏว่า จากการแบ่งกลุ่มหมู่บ้านออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มที่มีสภาพความเป็นอยู่ยากจนกลุ่มที่มีสภาพความเป็นอยู่ปานกลาง และกลุ่มที่มีสภาพความเป็นอยู่ดี ร้อยละ 31.76 ของ หมู่บ้านทั้งหมดตกอยู่ในกลุ่มที่มีสภาพความเป็นอยู่ยากจน ร้อยละ 41.70 อยู่ในกลุ่มที่มีสภาพความเป็นอยู่ปานกลาง และร้อยละ 26.54 อยู่ในกลุ่มที่มีสภาพความเป็นอยู่ดี และจากการแบ่งกลุ่มหมู่บ้านออกเป็น 5 กลุ่ม ปรากฏว่า กลุ่มที่ 1 เป็นกลุ่มที่มีความเป็นอยู่ยากจน มีอยู่ร้อยละ 13.61 กลุ่มที่ 2 ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความเป็นอยู่ค่อนข้างยากจน มีอยู่ร้อยละ 20.54 เมื่อพิจารณาจากการจัดกลุ่มหมู่บ้านออกเป็น 5 กลุ่มนี้ สองกลุ่มแรกเป็นกลุ่มหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรวนใจที่จะให้ความช่วยเหลือพัฒนาในด้านต่างๆ กลุ่มที่ 3 และกลุ่มที่ 4 ซึ่งมีสภาพที่ดีกว่า 2 กลุ่มแรกนั้น มีหมู่บ้านตกอยู่ในสองกลุ่มนี้ร้อยละ 36.34 และ 20.88 ตามลำดับ สำหรับกลุ่มที่ 5 ซึ่งจัดเป็นกลุ่มที่มีความเป็นอยู่ดีที่สุดนั้น มีหมู่บ้านในกลุ่มนี้เพียงร้อยละ 8.63 เท่านั้น

Share

COinS