Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
การศึกษาและพัฒนาเตาที่ใช้เศษวัสดุเหลือใช้จากการเกษตรเป็นเชื้อเพลิง
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
A study and development of stoves utilizing agricultural wastes as fuels
Year (A.D.)
1984
Document Type
Thesis
First Advisor
กุลธร ศิลปบรรเลง
Faculty/College
Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)
Degree Name
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
วิศวกรรมเครื่องกล
DOI
10.58837/CHULA.THE.1984.484
Abstract
เนื่องจากปัจจุบันนี้วัสดุเชื้อเพลิงที่ใช้สำหรับหุงต้มอาหารมีราคาสูงขึ้นและหายากขึ้นทุกที จึงมีการคิดค้นประดิษฐ์เตาเพื่อใช้กับเศษวัสดุเหลือใช้จากการเกษตรเป็นเชื้อเพลิง แต่มีการศึกษาอย่างคร่าวๆ ถึงปริมาณความร้อนที่สูญเสียไปในเวลาหุงต้มอาหาร เช่นการสูญเสียความร้อนโดยการนำ การสูญเสียความร้อนโดยการพา และการสูญเสียความร้อนโดยการแผ่รังสี ทำให้ประสิทธิภาพของเตาค่อนข้างต่ำ สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงโดยเปล่าประโยชน์ ฉะนั้นจุดประสงค์ในการวิจัยครั้งนี้ก็เพื่อหาวิธีในการปรับปรุงการสร้างลักษณะของเตาให้ดีขึ้น ทำให้ปริมาณความร้อนที่สูญเสียลดน้อยลง ประสิทธิภาพของเตาสูงขึ้น และยังหาวิธีประเมินประสิทธิภาพที่สามารถใช้เป็นมาตรฐานในการวัดประสิทธิภาพของเตา เพื่อเปรียบเทียบได้ ในการทดลองประสิทธิภาพตามสภาพเดิมของเตาใช้ฟืนเป็นเชื้อเพลง ใช้น้ำเป็นวัสดุรับความร้อน น้ำหนักของฟืนหนัก 1 กิโลกรัม น้ำหนักของน้ำในหม้อขนาดใหญ่หนัก 2 กิโลกรัม น้ำหนักของน้ำในหม้อขนาดเล็กหนัก 0.8 กิโลกรัม ผลของการทดลองปรากฏว่า ค่าเฉลี่ยประสิทธิภาพภาชนะ 84.1% ค่าเฉลี่ยประสิทธิภาพเตา 11.3 % ค่าเฉลี่ยประสิทธิภาพการหุงต้ม 9.48% ซึ่งค่าเฉลี่ยเหล่านี้ยังเป็นค่าที่ต่ำมาก จึงได้ทำการปรับปรุงลักษณะเตา ส่วนของเตาที่ได้ทำการปรับปรุง 1. ผนังเตาที่ด้านหน้าเตา ทำให้หนาขึ้นจากเดิม 5 เซนติเมตร เป็น 7.5 เซนติเมตร และผนังเตาด้านหน้าเตาตรงบริเวณรอยต่อระหว่างเตาใหญ่และเตาเล็ก ทำให้หนาขึ้นจากเดิม 10 เป็น 12.5 เซนติเมตร 2. ที่ห้องเผาไหม้ ทำเป็นตะแกรงวางเชื้อเพลิง 3. เส้นผ่าศูนย์กลางของรูที่เชื่อมระหว่างเตาใหญ่กับเตาเล็กลดจากเดิม 11 เป็น 8 เซนติเมตร และเส้นผ่าศูนย์กลางของปล่องควันลดจากเดิม 9.5 เป็น 7 เซนติเมตร 4. ที่ส่วนล่างของปล่องควันเพิ่ม damper 5. ด้านหลังเตาบริเวณเตาเล็กเพิ่มหินดักควัน ซึ่งมีฐานยาว 11.5 เซนติเมตร สูง 6.8 เซนติเมตร ระยะห่างจากก้นหม้อใบเล็ก 3 เซนติเมตร ผลการทดลองปรากฏว่า ประสิทธิภาพการหุงต้มเฉลี่ย 18.5% ประสิทธิภาพภาชนะเฉลี่ย 93.0% ประสิทธิภาพเตาเฉลี่ย 19.9% ซึ่งค่าเฉลี่ยเหล่านี้สูงกว่าค่าที่ได้ก่อนปรับปรุงเตา
Creative Commons License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
ขัตติยะวิทย์, วิทยา, "การศึกษาและพัฒนาเตาที่ใช้เศษวัสดุเหลือใช้จากการเกษตรเป็นเชื้อเพลิง" (1984). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 53690.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/53690