Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การเปรียบเทียบความต้องการและการปฏิบัติจริงในการฝึกปฏิบัติ ด้านการงานและพื้นฐานอาชีพของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่หก ในโรงเรียนประถมศึกษาสังกัดสำนักงานการประถมศึกษา จังหวัดปทุมธานี

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

A comparison of needs and actual practice in work oriented training of prathom suksa six students in primary schools under Pathum Thani office of the provincial primary education

Year (A.D.)

1984

Document Type

Thesis

First Advisor

วรรณี ศิริโชติ

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

ครุศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

ประถมศึกษา

DOI

10.58837/CHULA.THE.1984.113

Abstract

ศึกษาเปรียบเทียบความต้องการและการปฏิบัติจริงในการฝึกปฏิบัติด้านการงานและพื้นฐานอาชีพของนักเรียน โดยมีตัวอย่างประชากร คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในโรงเรียนประถมศึกษาสังกัดสำนักงานการประถมศึกษาจังหวัดปทุมธานี ปีการศึกษา 2526 จำนวน 772 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์ที่ผู้วิจัยได้สร้างขึ้นโดยผ่านการตรวจสอบจากผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 9 ท่าน เมื่อได้ข้อมูลจากแบบสอบถาม นำมาหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และหาค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน รวมทั้งทดสอบค่าที เพื่อทราบความแตกต่างระหว่างความต้องการและการปฏิบัติจริงในการฝึกปฏิบัติงานต่างๆ ในกลุ่มการงานและพื้นฐานอาชีพ ข้อมูลจากการสัมภาษณ์นำมาประกอบการสรุป อภิปรายผลการวิจัยและเสนอแนะ ผลการวิเคราะห์ข้อมูลปรากฏว่า นักเรียนที่ตอบแบบสอบถามมีอายุ 12 และ 13 ปี คิดเป็นร้อยละ 82.5 บิดา มารดา และผู้ปกครองของนักเรียนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพรับจ้างและเกษตรกรรม ในอนาคตนักเรียนต้องการประกอบอาชีพรับราชการมากที่สุด คือ ร้อยละ 46.5 รองลงมา คือ ต้องการประกอบอาชีพเกษตรกรรม ร้อยละ 18 สำหรับงานในกลุ่มการงานและพื้นฐานอาชีพที่นักเรียนสนใจมากที่สุด คือ งานประดิษฐ์ รองลงมา คือ งานเกษตร ในด้านความต้องการและการปฏิบัติจริงในการฝึกปฏิบัติด้านการงานและพื้นฐานอาชีพนั้น ผลปรากฏว่านักเรียนมีความต้องการในการฝึกปฏิบัติสูงกว่าการได้ปฏิบัติจริง ความต้องการและการปฏิบัติจริงแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ผลจากการสัมภาษณ์นักเรียนประมาณ 100 คน ครูและผู้บริหารโรงเรียน 24 คน ปรากฏว่านักเรียนมีความคิดที่ดีต่อการเรียนการสอนกลุ่มการงานและพื้นฐานอาชีพ หากแต่ทางโรงเรียนไม่สามารถจัดกิจกรรมให้ตอบสนองความต้องการของนักเรียนอย่างเต็มที่ ทั้งนี้เนื่องมาจากปัญหาและอุปสรรคหลายประการ เช่น การขาดแคลนครูที่มีความถนัดเฉพาะงาน คุณภาพของแปลงทดลอง เรือนเพาะชำ โรงฝึกงาน ฯลฯ ไม่ดีเท่าที่ควร การขาดแคลนงบประมาณ และขาดการประชาสัมพันธ์ให้ผู้ปกครองของนักเรียนเข้าใจจุดมุ่งหมายของหลักสูตรประถมศึกษาพุทธศักราช 2521 โดยเฉพาะกลุ่มการงานและพื้นฐานอาชีพ ทำให้ผู้ปกครองไม่สนับสนุนให้นักเรียนเรียนงานต่างๆ ในกลุ่มการงานและพื้นฐานอาชีพ และไม่ให้ความร่วมมือในการติดตามผลการปฏิบัติงานของนักเรียนเท่าที่ควร

Share

COinS