Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การวิเคราะห์หลักสูตรมัธยมศึกษาตอนปลาย พุทธศักราช 2524 เกี่ยวกับการปลูกฝังจริยธรรม

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

An analysis of the Upper Secondary School Curriculum B.E. 2524 concerning inculcation of morality

Year (A.D.)

1984

Document Type

Thesis

First Advisor

สงัด อุทรานันท์

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

ครุศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

บริหารการศึกษา

DOI

10.58837/CHULA.THE.1984.78

Abstract

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) วิเคราะห์หลักสูตรมัธยมศึกษาตอนปลายพุทธศักราช 2524 ในส่วนที่เกี่ยวกับการปลูกฝังจริยธรรม (2) ศึกษาการรับรู้ และการปฏิบัติของครู-อาจารย์ ที่สอนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ในโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดกรมสามัญศึกษา เขตการศึกษา 6 เกี่ยวกับการมุ่งเน้นการปลูกฝังจริยธรรมตามหลักสูตร มัธยมศึกษาตอนปลาย พุทธศักราช 2524 (3) ศึกษาระดับการใช้เหตุผลเชิงจริยธรรมของนักเรียน มัธยมศึกษาปีที่ 6 ในโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดกรมสามัญศึกษา ในเขตการศึกษา 6 เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของการวิจัยดังกล่าวข้างต้น การดำเนินการวิจัยจึงมีอยู่ 3 ลักษณะคือ (1) ดำเนินการวิเคราะห์หลักสูตรมัธยมศึกษาตอนปลาย พุทธศักราช 2524 ในส่วนที่เกี่ยวกับการปลูกฝังจริยธรรม โดยทำการวิเคราะห์ว่าหลักสูตรได้ระบุคุณลักษณะทางจริยธรรมคุณลักษณะต่างๆ มากน้อยอย่างไร การวิเคราะห์ดังกล่าวได้อาศัยผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้พิจารณาตัดสินในส่วนที่เป็นปัญหา (2) การศึกษาการรับรู้และการปฏิบัติของครู-อาจารย์เกี่ยวกับการมุ่งเน้นการปลูกฝังจริยธรรม ใช้กลุ่มตัวอย่างประชากรคือครู-อาจารย์เกี่ยวกับการมุ่งเน้นการปลูกฝังจริยธรรม ใช้กลุ่มตัวอย่างประชากรคือครู-อาจารย์ผู้สอนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย จำนวน 397 คน ได้มาจากการสุ่มแบบ Multi-Stage Random Sampling จากโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย สังกัดกรมสามัญศึกษา เขตการศึกษา 6 เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถามมีลักษณะเป็นแบบประมาณค่า ซึ่งผู้วิจัยได้สร้างขึ้นเองภายใต้การแนะนำและปรึกษาอาจารย์ที่ปรึกษา (3) ศึกษาระดับการใช้เหตุผลเชิงจริยธรรมของนักเรียน มัธยมศึกษาปีที่ 6 ใช้กลุ่มตัวอย่างประชากรจำนวน 627 คน ซึ่งได้มาจากการสุ่มแบบ Multi Stage Random Sampling จากโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย สังกัดกรมสามัญศึกษา เขตการศึกษา 6 เครื่องมือเป็นแบบทดสอบเชิงสถานการณ์ของกองวิจัยทางการศึกษา กรมวิชาการ ทำการวิเคราะห์ข้อมูลดังนี้คือ (1) แจกแจงความถี่คุณลักษณะทางจริยธรรมที่ระบุไว้ในเอกสารหลักสูตรแล้วหาค่าร้อยละ (2) หาค่าเฉลี่ยมัชฌิมเลขคณิตของจริยธรรมแต่ละคุณลักษณะจากคำตอบของครูในส่วนที่เป็นการรับรู้และการปฏิบัติในการปลูกฝังจริยธรรม แล้วทดสอบความมีนัยสำคัญทางสถิติของคะแนนทั้งส่วนที่เป็นการรับรู้และการปฏิบัติในการปลูกฝังจริยธรรมของครู-อาจารย์ จำแนกตามเพศ ขนาดโรงเรียน และอายุ โดยใช้ค่า t และ One-way ANOVA (3) คำนวณหาค่าเฉลี่ยมัชฌิมเลขคณิตของคะแนนจริยธรรมแต่ละคุณลักษณะของนักเรียนจำแนกตามเพศและขนาดของโรงเรียน แล้วทดสอบความมีนัยสำคัญทางสถิติ โดยการทดสอบค่า t สรุปผลการวิจัย 1. หลักสูตรมัธยมศึกษาตอนปบลาย พุทธศักราช 2524 ได้ระบุคุณลักษณะทางจริยธรรมคุณลักษณะต่างๆเรียงตามลำดับมากไปหาน้อยดังนี้คือ (1) ใฝ่สัจจธรรม (2) สติ สัมปชัญญะ (3) การใช้ปัญญาในการแก้ปัญหา (4) ซื่อสัตย์สุจริต (5) ไม่ประมาท (6) เมตตา กรุณา (7) หิริ โอตตัปปะ (8) ขยันหมั่นเพียร 2. เพศ ขนาดของโรงเรียน และอายุ ของครู-อาจารย์ ไม่มีผลทำให้การรับรู้หลักสูตรเกี่ยวกับการมุ่งเน้นในการปลูกฝังจริยธรรมในเกือบทุกคุณลักษณะแตกต่างกัน ยกเว้นในคุณลักษณะความไม่ประมาท ขนาดของโรงเรียนมีผลทำให้การรับรู้ของครู-อาจารย์ แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3. เพศ ขนาดของโรงเรียน และอายุของครู-อาจารย์ ไม่มีผลทำให้การปฏิบัติในการปลูกฝังจริยธรรมแตกต่างกันในเกือบทุกคุณลักษณะ ยกเว้นในคุณลักษณะซื่อสัตย์สุจริต เพศมีผลทำให้ครูปฏิบัติแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 4. จากการเปรียบเทียบ การรับรู้และการปฏิบัติของครู-อาจารย์ในการมุ่งเน้นปลูกฝังจริยธรรมตามหลักสูตร ปรากฏว่าในคุณลักษณะ เมตตากรุณา และหิริโอตตัปปะ ครู-อาจารย์มีการรับรุ้และการปฏิบัติที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 5.นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ในโรงเรียนมัธยมศึกษาสังกัดกรมสามัญศึกษา เขตการศึกษา 6 มีการใช้เหตุผลเชิงจริยธรรม คุณลักษณะการใช้ปัญญาในการแก้ปัญหา สติสัมปชัญญะ เมตตากรุณา ซื่อสัตย์สุจริต ขยันหมั่นเพียร และไม่ประมาท อยู่ในระดับ 3 และมีการใช้เหตุผลเชิงจริยธรรม คุณลักษณะใฝ่สัจจธรรม และหิริโอตตัปปะ อยู่ในระดับ 3 และมีการใช้เหตุผลเชิงจริยธรรม คุณลักษณะใฝ่สัจจธรรม และหิริโอตตัปปะ อยู่ในระดับ 2 ตามลำดับ และเมื่อเปรียบเทียบการใช้เหตุผลเชิงจริยธรรมของนักเรียน จำแนกตามเพศและขนาดของโรงเรียนแล้วปรากฏว่า ขนาดของโรงเรียนไม่มีผลทำให้นักเรียนมีระดับการใช้เหตุผลเชิงจริยธรรมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และเพสไม่มีผลทำให้การใช้เหตุผลเชิงจริยธรรมของนักเรียนแตกต่างกันในเกือบทุกคุณลักษณะ ยกเว้นคุณลักษณะใฝ่สัจจธรรม เพศมีผลทำให้ระดับการใช้เหตุผลเชิงจริยธรรมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05 และในคุณลักษณะเมตตากรุณากับหิริโอตตัปปะ เพศมีผลทำให้ระดับการใช้เหตุผลเชิงจริยธรรมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

Share

COinS