Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
การต่อรองคำรับสารภาพ
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
Plea bargaining
Year (A.D.)
1984
Document Type
Thesis
First Advisor
วีระพงษ์ บุญโญภาส
Second Advisor
เข็มชัย ชุติวงศ์
Faculty/College
Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)
Degree Name
นิติศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
นิติศาสตร์
DOI
10.58837/CHULA.THE.1984.325
Abstract
การบริหารงานยุติธรรมทางอาญาในนามประเทศมักประสบปัญหาที่คล้ายคลึงกัน ๒ ประการคือ ความจำเป็นทางนโยบายอาญาที่มุ่งนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษให้มากที่สุดเท่าที่จะกระทำได้ เพื่อให้เกิดผลในทางยับยั้ง ข่มขู่ แก้ไข ผู้กระทำผิดให้เป็นคนดีและป้องกันสังคมให้ปลอดภัยจากอาชญากรรม เพื่อให้สังคมเกิดความสงบสุขเรียบร้อย และปัญหาการขาดแคลนจำนวนบุคคลากร เครื่องมือ เครื่องใช้ งบประมาณและอื่น ๆ ในการดำเนินกระบวนการพิจารณาคดี ทำให้การบริหารงานยุติธรรมทางอาญาเป็นไปโดยไม่มีประสิทธิภาพ และส่งผลให้การพิจารณาเกิดความล่าช้าและคดีคั่งค้างพิจารณาอยู่ในศาลเป็นจำนวนมากและเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ประกอบกับค่านิยมของสังคมที่มีต่อกระบวนการยุติธรรมทางอาญา มีแนวโน้มที่จะมุ่งรักษาคุ้มครองสิทธิ เสรีภาพของประชาชนมากกว่าให้ความสะดวกแก่เจ้าพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่ จึงก่อให้เกิดข้อจำกัดอย่างเคร่งครัดในอันที่ศาลจะรับฟังพยานหลักฐาน ด้วยเหตุดังกล่าวในสหรัฐอเมริกา จึงได้นำวิธีการต่อรองคำรับสารภาพ (Plea bargaining) มาใช้อย่างแพร่หลาย เพราะนอกจากจะช่วยคลี่คลายปัญหาข้อขัดข้องในการบริหารงานยุติธรรมทางอาญาแล้ว ยังสามารถแก้ไขความเคร่งครัดของหลัก due process model ในเรื่องบทตัดพยาน exclusionary rule ซึ่งเกี่ยวกับการได้พยานหลักฐานมาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย สำหรับประเทศไทย ก็ประสบปัญหาข้อขัดข้องในการบริหารงานยุติธรรมทางอาญา คล้ายคลึงกับของสหรัฐอเมริกา จึงควรศึกษาเกี่ยวกับวิธีการต่อรองคำรับสารภาพในสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ เพื่อนำมาปรับใช้แก้ปัญหาดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตามการจะนำเอาวิธีการต่อรองคำรับสารภาพมาปรับใช้ในกระบวนการยุตธรรมทางอาญาของไทยนั้น จำเป็นต้องคำนึงถึงระบบกฎหมาย สถานภาพ เศรษฐกิจ การเมือง เป็นต้น และเนื่องจากปัจจัยเหล่านี้ของไทยแตกต่างไปจากสหรัฐอเมริกา จึงไม่อาจนำเอาวิธีการต่อรองคำรับสารภาพตามแนวความคิดของสหรัฐอเมริกามาใช้ในกระบวนการยุติธรรมทางอาญาไทยได้ทั้งหมด คงนำมาปรับใช้เพียงบางส่วน โดยนำมาใช้ในชั้นพนักงานอัยการ เพื่อใช้เป็นเครื่องมือที่จะขจัดปัญหาความขัดข้องความล่าช้าในการดำเนินคดีของศาล เพราะวิธีการต่อรองคำรับสารภาพนี้สามารถช่วยในการย่นระยะเวลาการดำเนินคดีให้สั้น รวดเร็ว ประหยัด และบรรลุเป้าหมายในการบริหารงานยุติธรรมทางอาญาอย่างมีประสิทธิภาพดีกว่าวิธีการกันผู้ต้องหาเป็นพยาน ซึ่งจะก่อให้ให้เกิดประโยชน์ในทางด้านกฎหมาย เศรษฐกิจ สังคม และการเมืองบ้างไม่มากก็น้อย.
Creative Commons License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
องค์พิสุทธิ์, นิจรินทร์, "การต่อรองคำรับสารภาพ" (1984). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 53333.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/53333