Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
ปัญหากฎหมายเกี่ยวกับสหภาพแรงงานในประเทศไทย
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
Legal problems concerning the trade union in Thailand
Year (A.D.)
1984
Document Type
Thesis
First Advisor
สุดาศิริ เฮงพูลธนา
Faculty/College
Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)
Degree Name
นิติศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
นิติศาสตร์
DOI
10.58837/CHULA.THE.1984.319
Abstract
“แรงงาน" เป็นทรัพยากรธรรมชาติอันมีค่ายิ่งที่รัฐจะต้องสงวนรักษาให้ความคุ้มครองดูแลและพัฒนาให้เจริญยิ่งขึ้น เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่เศรษฐกิจของประเทศอย่างเต็มที่ แต่โดยที่ข้อเท็จจริงปรากฏว่ารัฐมิอาจจะให้ความคุ้มครองดูแลผู้ใช้แรงงาน ซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศได้อย่างทั่วถึงอันก่อให้เกิดปัญหาทางด้านแรงงานตามมาอยู่เสมอ ดังนั้น ประเทศต่าง ๆ จึงสนับสนุนหลักการที่จะให้มีการจัดตั้ง “สหภาพแรงงาน" ขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่ช่วยดูแลแทนรัฐมิให้มีการปฏิบัติอันเป็นการฝ่าฝืนหรือละเมิดต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อให้สหภาพแรงงานเป็นตัวแทนของผู้ใช้แรงงานในการพิทักษ์ปกป้องผลประโยชน์หรือแสวงหาความเป็นธรรมเกี่ยวกับสภาพการจ้างให้แก่ผู้ใช้แรงงาน สหภาพแรงงานเกิดขึ้นจากการรวมตัวของผู้ประกอบอาชีพอิสระ และทฤษฎีตลอดจนแนวความคิดเกี่ยวกับระบบแรงงานสัมพันธ์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างนายจ้างกับลูกจ้างในการประกอบธุรกิจอาชีพการงานร่วมกันและเพื่อปรับปรุงแก้ไขสภาพการจ้างให้เหมาะสม ทั้งนี้ เพราะโดยธรรมชาติของการทำงานนั้น บุคคลทั้งสองฝ่ายนี้ต่างมีผลประโยชน์ขัดแย้งกันอยู่เสมอ สหภาพแรงงานซึ่งอยู่ในกระบวนการแรงงานสัมพันธ์จึงอยู่ในฐานะที่จะช่วยลดปัญหาข้อขัดแย้งต่าง ๆ ในสถานประกอบการเพื่อมิให้กลายเป็นปัญหาที่ลุกลามใหญ่โตจนอาจกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงทางธุรกิจอุตสาหกรรมตลอดจนความสงบเรียบร้อยของประเทศ แต่เนื่องจากสภาพแรงงานเป็นองค์การซึ่งเป็นที่รวมตัวของบรรดาลูกจ้างจึงทำให้เกิดพลังหรืออำนาจในการเรียกร้องหรือต่อรองกับฝ่ายนายจ้าง ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องการดำเนินกิจการตามระบบแรงงานสัมพันธ์ อย่างไรก็ตามในทางปฏิบัติมักปรากฏอยู่เสมอว่ามีสหภาพแรงงานบางแห่งมิได้ดำเนินกิจการให้ตรงตามวัตถุประสงค์หรือสอดคล้องกับหลักการแรงงานสัมพันธ์ที่ดี หากแต่ใช้พลังหรืออำนาจดังกล่าวไปในทางที่ไม่ถูกไม่ควรหรือขัดต่อกฎหมาย เช่น การเรียนร้องในสิ่งซึ่งมิใช่ผลประโยชน์เกี่ยวกับสภาพการจ้าง หรือการเรียกร้องโดยมีวัตถุประสงค์ในทางการเมืองเป็นต้น ยิ่งกว่านั้นผู้บริหารสหภาพแรงงานบางคนยังใช้สหภาพแรงงานเป็นเครื่องมือในการแสวงหาผลประโยชน์ให้แก่ตนเองด้วย เช่น การเรียกร้องต่อรัฐบาลโดยมุ่งหวังตำแหน่งเป็นการตอบแทนสำหรับตนเอง เป็นต้น พฤติกรรมดังกล่าวทำให้ประชาชนหรือลูกจ้างผู้ใช้แรงงานขาดความศรัทธาและมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อสหภาพแรงงาน ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่รีบดำเนินการแก้ไขก็น่าเชื่อว่าสหภาพแรงงานอาจถูกทำลายโดยลูกจ้างหรือผู้ใช้แรงงานด้วยกันนั่นเอง ดังนั้น รัฐซึ่งเป็นผู้สนับสนุนให้มีการจัดตั้งสหภาพแรงงานขึ้นมาจึงจำเป็นต้องเข้ามาควบคุมดูแลการดำเนินกิจการของสหภาพแรงงานเพื่อให้ดำเนินไปอย่างถูกต้องโดยชอบด้วยกฎหมายและมิให้เป็นอันตรายต่อประชาชนตลอดจนความมั่นคงของประเทศ แต่การควบคุมดูแลดังกล่าวในบางเรื่องอาจเกิดความยุ่งยากหรือไม่สามารถจะกระทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีสาเหตุมาจากความบกพร่องและความไม่สมบูรณ์ของกฎหมายหรือเนื่องจากความเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง วิทยานิพนธ์นี้ จึงมุ่งศึกษาถึงเรื่องสหภาพแรงงานโดยเน้นเฉพาะเรื่องปัญหากฎหมายเกี่ยวกับสหภาพแรงงานในประเทศไทยซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นจากบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518 ในประเด็นที่เกี่ยวกับการจัดตั้งและการบริหารสหภาพแรงงาน การแจ้งข้อเรียกร้อง การร่วมเจรจาต่อรองและการทำข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง ตลอดจนการควบคุมสหภาพแรงงาน ทั้งนี้ เพื่อจะได้หาแนวทางหรือมาตรการที่ดีที่เหมาะสมสำหรับปรับปรุงแก้ไขกฎหมายให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นอันเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาระบบแรงงานสัมพันธ์ ซึ่งจะส่งผลไปถึงความสงบสุขในอุตสาหกรรมและของประเทศต่อไป
Creative Commons License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
หล่อโลหการ, สุชาติ, "ปัญหากฎหมายเกี่ยวกับสหภาพแรงงานในประเทศไทย" (1984). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 53327.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/53327