Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การศึกษาทัศนคติ การคล้อยตามกลุ่มอ้างอิง เจตนาเชิงพฤติกรรม และพฤติกรรมในการใช้บริการการปรึกษาของนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 3 และปีที่ 6 ในเขตกรุงเทพมหานคร

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

A study of attitudes, subjective norms, behavioral intentions and behaviors in using counseling services of mathayom suksa 3 and mathayom suksa 6 students in the Bangkok metropolis

Year (A.D.)

1984

Document Type

Thesis

First Advisor

ธีระพร อุไรวรรณ

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

ครุศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

จิตวิทยาการศึกษา

DOI

10.58837/CHULA.THE.1984.59

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาทัศนคติ การคล้อยตามกลุ่มอ้างอิง เจตนาเชิงพฤติกรรมและพฤติกรรมในการใช้บริการการปรึกษาของนักเรียนมัธยมศึกษา โดยนำทฤษฎีการกระทำด้วยเหตุผลของฟิชไบน์และไอเซน เป็นหลักในการสร้าง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แบบสำรวจทัศนคติ การคล้อยตามอ้างอิง เจตนาเชิงพฤติกรรมในการใช้บริการการปรึกษากับอาจารย์แนะแนวในโรงเรียน ผลจากการนำแบบสำรวจไปทดลองใช้ พบว่าแบบสำรวจนี้มีค่าความเชื่อถือได้ตั้งแต่ .88 ถึง สำหรับกลุ่มตัวอย่างในการวิจัยประกอบด้วยนักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3 และปีที่ 6 จากโรงเรียนในเขตกรุงเทพมหานคร สังกัดกรมสามัญศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ รวม 11 โรงเรียนเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่พิเศษ ขนาดใหญ่ และขนาดกลาง จำนวนทั้งสิ้น 760 คน สถิติที่ใช้คือ ค่าสหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน ค่าสหสัมพันธ์แบบพอยท์ไบซีเรียล และค่าสหสัมพันธ์พหุคูณ โดยการวิเคราะห์ด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ และใช้โปรแกรมสำเร็จรูป เอส พี เอส เอส ทั้งหมด ทั้งผู้วิจัยตั้งสมมติฐานในการวิจัยว่า 1. ทัศนคติต่อการใช้บริการการศึกษากับอาจารย์แนะแนวในโรงเรียน ประกอบกับการคล้อยตามกลุ่มอ้างอิงในการใช้บริการการปรึกษากับอาจารย์แนะแนวในโรงเรียน ประกอบกับการคล้อยตามกลุ่มอ้างอิงในการใช้บริการการปรึกษากับอาจารย์แนะแนวในโรงเรียน สามารถทำนายตัวแปรเกณฑ์ คือ เจตนาเชิงพฤติกรรมในการใช้บริการการปรึกษากับอาจารย์แนะแนวในโรงเรียนได้ 2. เจตนาเชิงพฤติกรรมในการใช้บริการการปรึกษากับอาจารย์แนะแนวในโรงเรียนกับพฤติกรรมในการใช้บริการการปรึกษากับอาจารย์แนะแนวในโรงเรียนมีความสัมพันธ์ ผลการวิจัยปรากฏว่าสนับสนุนสมมติฐานทั้ง 2 ข้อดังกล่าวอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และ .001 ตามลำดับ และพบว่าองค์ประกอบทัศนคติต่อการใช้บริการการปรึกษากับอาจารย์แนะแนวในโรงเรียนมีบทบาทต่อเจตนาเชิงพฤติกรรมในการใช้บริการการปรึกษากับอาจารย์แนะแนวในโรงเรียนมากกว่าการคล้อยตามกลุ่มอ้างอิงในการใช้บริการการปรึกษากับอาจารย์แนะแนวในโรงเรียน (W₁=.32, W₂=.25)

Share

COinS