Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างอัตราการเจริญเติบโต ของสินทรัพย์รวมกับอัตราการเจริญเติบโตของกำไรสุทธิ ของธนาคารพาณิชย์ไทย

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

A study on the relationship between growth rates of total assets and those of net profits of Thai commercial banks

Year (A.D.)

1984

Document Type

Thesis

First Advisor

ประยูร จินดาประดิษฐ์

Second Advisor

วัฒนพร พึ่งบุญ ณ อยุธยา

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

บัญชีมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

การบัญชี

DOI

10.58837/CHULA.THE.1984.364

Abstract

ธนาคารพาณิชย์ไทยเป็นสถาบันการเงินที่มีความสำคัญมากสถาบันหนึ่งที่มีอัตราการเจริญเติบโตของสินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและเนื่องจากธนาคารพาณิชย์เป็นองค์การธุรกิจที่ต้องอาศัยผลกำไรจากการดำเนินงานจึงเป็นที่น่าสนใจว่าอัตราการเจริญเติบโตของสินทรัพย์รวมมีความสัมพันธ์กับอัตราการเจริญเติบโตของกำไรสุทธิของธนาคารพาณิชย์ไทยในลักษณะใดเพื่อจะได้นำความสัมพันธ์นี้ไปพิจารณาหาวิธีวัดประสิทธิภาพของธนาคารพาณิชย์ไทยดังนั้นวิทยานิพนธ์ฉบับนี้จึงได้ศึกษาถึงความสัมพันธ์ระหว่างอัตราการเจริญเติบโตของสินทรัพย์รวมกับอัตราการเจริญเติบโตของกำไรสุทธิของธนาคารพาณิชย์ไทย วิธีการดำเนินงานวิจัยได้เริ่มจากการศึกษาค้นคว้าทฤษฎีและแนวความคิดต่างๆ จากตำราและเอกสารในห้องสมุดของสถาบันการศึกษาของธนาคารแห่งประเทศไทยและของธนาคารพาณิชย์ไทยบางแห่งต่อจากนั้นได้เก็บรวบรวมข้อมูลที่เป็นตัวเลขจากรายงานประจำปีของธนาคารพาณิชย์ไทยจากเอกสารของธนาคารแห่งประเทศไทยและจากวารสารที่ธนาคารพาณิชย์หรือองค์การอื่นพิมพ์เผยแพร่หลังจากนั้นได้วิเคราะห์ตัวเลขที่ได้มาโดยสร้างเลขดัชนีคำนวณอัตราส่วนทางการเงินและใช้หลักสถิติในการวิจัยนั่นคือวิเคราะห์การถดถอยและสหสัมพันธ์เพื่อวัดความสัมพันธ์ระหว่างอัตราการเจริญเติบโตของสินทรัพย์รวมกับอัตราการเจริญเติบโตของกำไรสุทธิของธนาคารพาณิชย์ไทยโดยวิเคราะห์ใน 4 ลักษณะคือ ทั้งระบบธนาคารพาณิชย์ไทย กลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ ขนาดกลางและขนาดเล็ก หลังจากการวิเคราะห์แล้วจึงเป็นชั้นการเรียนรายงานเพื่อเสนอผลการวิจัยโดยได้เสนอทั้งแบบเชิงปริมาณในรูปของตารางตัวเลข ค่าทางสถิติและแบบเชิงบรรยายในเนื้อหา โดยเรียบเรียนเป็น 6 บท กล่าวคือบทแรกเป็นบทนำ บทที่สองได้วิเคราะห์สินทรัพย์รวมและกำไรสุทธิของธนาคารพาณิชย์ไทย ผลคือสินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้นทุกปีแต่กำไรสุทธิไม่ได้เพิ่มทุกปี ส่วนบทที่สามจากการศึกษาอัตราส่วนทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ปรากฏว่าอัตราส่วนที่เป็นเครื่องมือในการวิเคราะห์ประสิทธิภาพของธนาคารพาณิชย์ไทยคืออัตราส่วนที่แสดงความสามารถในการหากำไรและอัตราส่วนที่แสดงประสิทธิภาพของพนักงานและศูนย์บริการในบทที่สี่ได้ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างอัตราการเจริญเติบโตของสินทรัพย์รวมกับอัตราการเจริญเติบโตของกำไรสุทธิของธนาคารพาณิชย์ไทยผลปรากฏว่าเมื่อวิเคราะห์ทั้งระบบธนาคารพาณิชย์ไทยแล้วอัตราการเจริญเติบโตของสินทรัพย์รวมกับอัตราการเจริญเติบโตของกำไรสุทธิมีความสัมพันธ์ในทิศทางเดียวกันส่วนในกรณีที่แยกวิเคราะห์เป็นกลุ่มธนาคารอัตราการเจริญเติบโตทั้งสองมีความสัมพันธ์ในทิศทางเดียวกันสำหรับกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่และสำหรับกลุ่มธนาคารขนาดเล็กแต่กลับไม่มีความสัมพันธ์กันสำหรับกลุ่มธนาคารขนาดกลาง ฉะนั้นจึงได้นำผลอันนี้มาศึกษาวิธีวิเคราะห์ประสิทธิภาพของธนาคารพาณิชย์ไทยในบทที่ห้าโดยใช้อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์รวมเป็นเครื่องมือในการวิเคราะห์ได้ผลว่ากลุ่มธนาคารขนาดเล็กมีประสิทธิภาพเป็นอันดับหนึ่ง รองลงมาคือกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่และต่อมาจึงเป็นกลุ่มธนาคารขนาดกลาง แต่การที่อัตราการเจริญเติบโตของสินทรัพย์รวมกับอัตราการเจริญเติบโตของกำไรสุทธิของธนาคารพาณิชย์ไทยไม่ได้มีความสัมพันธ์กับทุกกรณีการใช้อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์รวมดังกล่าวจึงไม่สมบูรณ์แบบนักเมื่อเป็นเช่นนั้นจึงได้เสนอการใช้อัตราส่วนที่แสดงความสามารถในการหากำไรหลายอัตราส่วนมาร่วมกันวิเคราะห์ประสิทธิภาพแทนพบว่ากลุ่มธนาคารขนาดใหญ่กลับมีประสิทธิภาพเป็นอันดับหนึ่งรองลงมาคือกลุ่มธนาคารขนาดเล็ก และต่อมาจึงเป็นกลุ่มธนาคารขนาดกลางเหมือนเดิมอย่างไรก็ตามวิธีนี้เป็นการวิเคราะห์ประสิทธิภาพของธนาคารพาณิชย์ทางด้านการเงินเพียงด้านเดียวเท่านั้นเพราะเหตุนั้นจึงได้เพิ่มการวิเคราะห์ประสิทธิภาพด้านอื่นอีกคือประสิทธิภาพของพนักงานและศูนย์บริการกับประสิทธิภาพทางด้านอัตราการเจริญเติบโตซึ่งผลปรากฏว่ากลุ่มธนาคารขนาดเล็กมีประสิทธิภาพของพนักงานและศูนย์บริการเป็นอันดับหนึ่งรองลงมาคือกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่และต่อมาจึงเป็นกลุ่มธนาคารขนาดกลางในขณะที่การวิเคราะห์ประสิทธิภาพทางด้านอัตราการเจริญเติบโตได้ผลว่ากลุ่มธนาคารขนาดกลางมีประสิทธิภาพเป็นอันดับหนึ่งรองลงมาคือกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่และต่อมาจึงเป็นกลุ่มธนาคารขนาดเล็ก การวิเคราะห์ประสิทธิภาพของธนาคารพาณิชย์ไทยนั้นผลที่ได้ขึ้นอยู่กับเครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์ซึ่งวิทยานิพนธ์ฉบับนี้ได้ใช้ทั้งเครื่องมือที่เป็นอัตราส่วนทางการเงินและการวิเคราะห์อัตราการเจริญเติบโตธนาคารที่มีประสิทธิภาพสูงโดยใช้เครื่องมืออันหนึ่งไม่จำเป็นต้องมีประสิทธิภาพสูงสำหรับการใช้เครื่องมืออีกอันหนึ่งนั่นคือวิธีวิเคราะห์ประสิทธิภาพแต่ละวิธีไม่จำเป็นต้องให้ผลตรงกันส่วนวิธีวิเคราะห์ประสิทธิภาพวิธีใดจะสำคัญกว่าวิธีอื่นเป็นเรื่องความคิดเห็นของแต่ละบุคคลหลักที่สำคัญคือการพยายามใช้เครื่องมือหลายอย่างร่วมกันพิจารณาในการตัดสินใจย่อมทำให้ได้ผลสรุปที่ยุติธรรมและน่าเชื่อถือมากที่สุด

Share

COinS