Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
ความรู้และทัศนคติเกี่ยวกับประชากรศึกษา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่สี่ โรงเรียนรัฐบาล ในกรุงเทพมหานคร
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
Knowledge of and attitudes towards population education of mathayom suksa four students in government schools in Bangkok
Year (A.D.)
1984
Document Type
Thesis
First Advisor
ภัสสร ลิมานนท์
Faculty/College
Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)
Degree Name
สังคมวิทยามหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
DOI
10.58837/CHULA.THE.1984.551
Abstract
ศึกษาเพื่อให้ทราบว่านักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่สี่มีความรู้และทัศนคติเกี่ยวกับประชากรศึกษาเป็นอย่างไร และมีปัจจัยใดบ้างที่มีผลต่อความรู้และทัศนคติเกี่ยวกับประชากรศึกษาของนักเรียน ผลการวิจัยจะนำไปใช้ในการประเมินหลักสูตรเกี่ยวกับประชากรศึกษา ที่ไปใช้ว่าได้ผลอย่างไร ข้อมูลที่ใช้ในการวิจัยผู้วิจัยได้สร้างแบบสอบทามและเก็บข้อมูลจากจำนวนนักเรียนทั้งหมด 823 คนของ 10 โรงเรียน ซึ่งเป็นโรงเรียนที่เปิดสอนวิชาประชากรศึกษา (ส 061)ในชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 3 ปีการศึกษา 2524 มีโรงเรียนชาย 1 โรงเรียน โรงเรียนสตรี 3 โรงเรียน และโรงเรียนสหศึกษา 6 โรงเรียน แบบสอบถามสมบูรณ์ที่ใช้ในการวิเคราะห์จำนวน 758 ชุด ผลการวิจัยครั้งนี้สรุปได้ดังนี้ จากการศึกษาปัจจัยด้านประชากรคือ เพศของนักเรียน สถานภาพสมรสของบิดามารดาของนักเรียน พบว่า เพศของนักเรียนมีผลทำให้เกิดความแตกต่างในความรู้และทัศนคติเกี่ยวกับประชากรศึกษาของนักเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 แต่สถานภาพสมรสของบิดามารดาของนักเรียนไม่มีผลทำให้เกิดความแตกต่างในความรู้และทัศนคติเกี่ยวกับประชากรศึกษา อย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ 0.05 จากการศึกษาปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจคือ อาชีพบิดาและมารดา รายได้ของบิดาและมาดาของนักเรียน พบว่า ทั้งอาชีพบิดาและมารดากับรายได้ของบิดาและมารดาของนักเรียน ไม่มีผลทำให้เกิดความแตกต่างในความรู้และทัศนคติเกี่ยวกับประชากรศึกษาของนักเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 จากการศึกษาปัจจัยทางด้านสังคมคือ ระดับการศึกษาของบิดาและมารดาของนักเรียน ประเภทของที่พักอาศัยของนักเรียนขณะที่กำลังศึกษาอยู่ พบว่า ระดับการศึกษาของบิดาและมารดาของนักเรียน มีผลต่อความรู้เกี่ยวกับประชากรศึกษาของนักเรียน แต่ไม่มีผลทำให้เกิดความแตกต่างในทัศนคติเกี่ยวกับประชากรศึกษาของนักเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ส่วนในด้านประเภทที่พักอาศัยของนักเรียนขณะที่กำลังศึกษาอยู่ ไม่มีผลทำให้เกิดความแตกต่างในความรู้และทัศนคติเกี่ยวกับประชากรศึกษาของนักเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 จากการศึกษาปัจจัยอื่นๆ คือ ประสบการณ์เกี่ยวกับประชากรศึกษาของนักเรียน ความถี่ในการรับข่าวจากสื่อมวลชนต่อสัปดาห์ และประเภทของกลุ่มโรงเรียนพบว่า ประสบการณ์เกี่ยวกับประชากรศึกษาของนักเรียน และความถี่ในการรับข่าวจากสื่อมวลชน ไม่มีผลทำให้เกิดความแตกต่างในความรู้และทัศนคติเกี่ยวกับประชากรศึกษาของนักเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ส่วนประเภทของกลุ่มโรงเรียนที่นักเรียนศึกษาอยู่ มีผลทำให้เกิดความแตกต่างในความรู้และทัศนคติเกี่ยวกับประชากรศึกษาของนักเรียน อย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ 0.05 จากการคำนวณค่าเฉลี่ยของคะแนนความรู้และทัศนคติเกี่ยวกับประชากรศึกษาของนักเรียน 758 คน ผลปรากฏว่า คะแนนเฉลี่ยของความรู้เกี่ยวกับประชากรศึกษาของนักเรียนแต่ละคนเท่ากับ 21.0 คะแนนจากคะแนนเต็ม 38 คะแนน (55.3%) คะแนนเฉลี่ยของทัศนคติของนักเรียนแต่ละคนเกี่ยวกับประชากรศึกษาของนักเรียนแต่ละคนเท่ากับ 162.6 คะแนนจากคะแนนเต็ม 225 คะแนน (72.3%) ดูจากคะแนนเฉลี่ยแล้วสรุปได้ว่า นักเรียนส่วนใหญ่มีความรู้เกี่ยวกับประชากรศึกษาปานกลาง และมีทัศนคติค่อนไปในทางบวก และหลักสูตรเกี่ยวกับประชากรศึกษาที่สอดแทรกเข้าไปในวิชาต่างๆ ได้ผลพอสมควร ส่วนหลักสูตรประชากรศึกษา (ส 061) นั้นน่าจะปรับปรุงแก้ไขให้ชัดเจน และเน้นการตัดสินใจของนักเรียนเป็นสำคัญ นอกจากนี้ควรที่จะมีการจัดอบรมครูที่สอนประชากรศึกษา (ส 061) เพิ่มขึ้น เพี่อให้ครูที่สอนทุกคนเข้าใจจุดมุ่งหมายและวิธีการสอนประชากรศึกษาตรงกัน
Creative Commons License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
เวคะวากยานนท์, เยาวภา, "ความรู้และทัศนคติเกี่ยวกับประชากรศึกษา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่สี่ โรงเรียนรัฐบาล ในกรุงเทพมหานคร" (1984). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 53156.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/53156