Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ลักษณะในการเป็นผู้นำชุมชนของนักศึกษากลุ่มวิทยาลัยครูภาคใต้ ตามการรับรุ้ของตนเอง

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Community leader's characteristics of southern teachers college students as percieved by themselves

Year (A.D.)

1983

Document Type

Thesis

First Advisor

สุกัญญา โฆวิไลกูล

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

ครุศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

อุดมศึกษา

DOI

10.58837/CHULA.THE.1983.287

Abstract

วัตถุประสงค์ของการวิจัย การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. ศึกษาลักษณะในการเป็นผู้นำชุมชนของนักศึกษากลุ่มวิทยาลัยครูภาคใต้ตามการรับรู้ของตนเอง 2. เพื่อเปรียบเทียบความแตกต่างในเรื่องเพศ ระดับชั้น วิชาเอก ประสบการณ์ในการเป็นผู้นำ และฐานะทางเศรษฐกิจของครอบครัวของนักศึกษา ที่มีผลต่อลักษณะในการเป็นผู้นำชุมชน วิธีดำเนินการวิจัย การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงบรรยาย (Descriptive Research) โดยสุ่มตัวอย่างจากนักศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2525 ของกลุ่มตัวแทนวิทยาลัยครูภาคใต้ ซึ่งได้จากการสุ่มตัวอย่างแบบง่าย (Simple Random Sampling) คือ วิทยาลัยครูนครศรีธรรมราช วิทยาลัยครูยะละ และวิทยาลัยครูสุราษฎร์ธานี แล้วจึงแบ่งนักศึกษาเป็นกลุ่มย่อย (Strata) โดยถือระดับชั้นปีและวิชาเอกเป็นหลัก จากนั้นจึงสุ่มตัวอย่างด้วยวิธีการสุ่มแบบแบ่งชั้นตามอัตราส่วน (Proportionate Stratified Random Sampling) ได้กลุ่มตัวอย่างทั้งหมด 300 คน เมื่อแจกแบบสอบถามแล้วได้รับคืน 288 คน คิดเป็นร้อยละ 96.00 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามแบบมาตราส่วนประเมินค่า (Rating Scale) ซึ่งผู้วิจัยสร้างขึ้นเอง ในการศึกษาลักษณะในการเป็นผู้นำชุมชน 5 ด้าน คือ ความมีคุณธรรม ความมีมนุษยสัมพันธ์ ความรับผิดชอบ ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ และความศรัทธาในงานพัฒนาชุมชน การวิเคราะห์ข้อมูลวิเคราะห์โดยการแจกแจงความถี่ หาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยมัชฌิมเลขคณิต (Mean) และค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) ที-เทสท์ (t-test) วิเคราะห์ความแปรปรวน (ANOVA) และการทดสอบรายคู่โดยวิธีของเชฟเฟ (Scheffe’) สรุปผลการวิจัย 1. นักศึกษากลุ่มวิทยาลัยครูภาคใต้ส่วนใหญ่มีลักษณะด้านความมีคุณธรรมสูงสุด รองลงมา คือ ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ความมีมนุษยสัมพันธ์ ความศรัทธาในงานพัฒนาชุมชน และความรับผิดชอบ ตามลำดับ 2. นักศึกษาเพศชายมีลักษณะผู้นำชุมชนสูงกว่านักศึกษาเพศหญิงทุกด้าน และแตกต่างกับนักศึกษาหญิงอย่างมีนัยสำคัญ 4 ด้าน คือ ด้านความรับผิดชอบ ความศรัทธาในงานพัฒนาชุมชน ด้านความมีมนุษยสัมพันธ์ และความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ 3. นักศึกษาในระดับชั้นปีที่ 4 จะมีลักษณะในการเป็นผู้นำชุมชนสูงกว่านักศึกษาทุกชั้นปี โดยเฉพาะลักษณะการเป็นผู้นำชุมชนด้านความศรัทธาในงานพัฒนาชุมชน นักศึกษาชั้นปีที่ 1 จะแตกต่างกับนักศึกษาชั้นปีที่ 4 อย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .01 4. นักศึกษากลุ่มที่มีประสบการณ์เป็นผู้นำมาก่อน มีลักษณะในการเป็นผู้นำชุมชนสูงกว่านักศึกษากลุ่มที่ไม่เคยมีประสบการณ์ทั้ง 5 ด้าน และนักศึกษากลุ่มที่ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อนมีลักษณะด้านความมีคุณธรรมแตกต่างกับนักศึกษาที่เคยมีประสบการณ์การเป็นผู้นำ อย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05 5. นักศึกษาในวิชาเอกต่างกัน มีลักษณะในการเป็นผู้นำชุมชนต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05 ในด้านความคิดริเริ่มสร้างสรรค์เพียงด้านเดียว 6. นักศึกษาที่มีฐานะทางเศรษฐกิจต่างกัน ไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญในเรื่องลักษณะการเป็นผู้นำชุมชนทั้ง 5 ด้าน ข้อเสนอแนะ จากผลการวิจัยครั้งนี้ ควรมีการกำหนดนโยบายการเรียนการสอนเน้นการปลูกฝังความศรัทธาในการพัฒนาชุมชนและความรับผิดชอบเพิ่มขึ้น โดยฝ่ายวิชาการของวิทยาลัย ประสานงานกับฝ่ายกิจการนักศึกษาและอาจารย์ผู้สอน จัดกิจกรรมการเรียนการสอน และกิจกรรมเสริมหลักสูตรที่ได้ความรู้ความเข้าใจในประสบการณ์ชนบทมากขึ้น นอกจากนี้ วิทยาลัยควรจะได้มีการพิจารณาเกี่ยวกับการรับนักศึกษาเข้าเรียน ตามสัดส่วนเพศชายและหญิง โดยเฉพาะวิทยาลัยที่อยู่ในท้องถิ่นที่ต้องการการพัฒนาชุมชนอย่างเร่งด่วน ในส่วนที่เกี่ยวกับตัวผู้สอน อาจารย์วิทยาครู ควรมีบทบาทในงานพัฒนาชุนชนมากขึ้น เพื่อจะได้ข้อมูลและประสบการณ์ตรงในการสร้าง “ครู" ที่เหมาะสมกับการเป็นผู้นำในท้องถิ่น

Share

COinS