Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
บทบาทของวิทยาลัยครูในเขตภาคกลาง ที่มีต่อการทำนุบำรุงวัฒนธรรมของชาติ
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
Roles of teachers colleges in central region on the national cultural preservation
Year (A.D.)
1983
Document Type
Thesis
First Advisor
วราภรณ์ บวรศิริ
Faculty/College
Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)
Degree Name
ครุศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
อุดมศึกษา
DOI
10.58837/CHULA.THE.1983.278
Abstract
วัตถุประสงค์ของการวิจัย 1. เพื่อศึกษาบทบาทการทำนุบำรุงส่งเสริมวัฒนธรรมของชาติของวิทยาลัยครูในเขตภาคกลาง 2. เพื่อศึกษาถึงวิธีการดำเนินงานการส่งเสริม ทำนุบำรุงวัฒนธรรมท้องถิ่นในเขตที่วิทยาลัยแต่ละแห่งรับผิดชอบ 3. เพื่อศึกษาปัญหาและอุปสรรคในด้านการดำเนินงานการทำนุบำรุงส่งเสริมรักษาวัฒนธรรมท้องถิ่นของวิทยาลัยครูในเขตภาคกลาง 4. เพื่อเสนอแนะแนวทางในการทำนุบำรุงวัฒนธรรมท้องถิ่นในเขตวิทยาลัยครูภาคกลาง วิธีดำเนินการวิจัย ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ได้แก่ ผู้บริหารและอาจารย์ของวิทยาลัยครูเขตภาคกลาง 11 แห่ง ซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2525 ส่วนกลุ่มตัวอย่างประกอบด้วย ผู้บริหารตั้งแต่ระดับหัวหน้าคณะวิชาขึ้นไป โดยใช้จำนวนประชากรทั้งหมดมีจำนวนทั้งสิ้น 77 คน อาจารย์ผู้สอนรายวิชาที่สัมพันธ์กับสาขาทางวัฒนธรรมทั้ง 5 สาขา ได้แก่ สาขาศิลปะ สาขามนุษยศาสตร์ สาขาคหกรรมศาสตร์ สาขากีฬาและนันทนาการ สาขาการช่างฝีมือ จำนวน 165 คน และคณะกรรมการประจำศูนย์วัฒนธรรมซึ่งประกอบด้วยประธานศูนย์ฯ รองประธานศูนย์ฯ เลขานุการศูนย์ฯ หัวหน้าฝ่ายวิจัยและพัฒนา ฝ่ายส่งเสริมและเผยแพร่ ฝ่ายฝึกอบรม ฝ่ายหอวัฒนธรรม และฝ่ายวัฒนธรรมสัมพันธ์ รวมทั้งหมด 88 คน รวมกลุ่มตัดอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้มีจำนวน 330 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย เป็นแบบสอบถามที่มีลักษณะเป็นแบบเลือกตอบแบบมาตราส่วนประเมินค่ะ และแบบปลายเปิด รวมทั้งแบบสัมภาษณ์ที่มีลักษณะเป็นแบบเลือกตอบ และแบบปลายเปิด จากแบบสอบถามที่ส่งไปจำนวน 330 ฉบับได้รับกลับคืน 288 ฉบับ คิดเป็นร้อยละ 87 แล้วนำมาวิเคราะห์โดยวิธีหาค่าร้อยละหาค่าเฉลี่ยและค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัย ผลการวิจัยพบว่า บทบาทของวิทยาลัยครูเขตภาคกลางที่มีต่อการทำนุบำรุงวัฒนธรรมนั้น ยังดำเนินบทบาทอยู่ในระดับค่อนข้างน้อยทุกด้าน ได้แก่ ด้านที่เน้นทางด้านการสอน ด้านจัดประกวดหรือแข่งขัน ด้านการวิจัย ด้านการประสานงานติดต่อ ด้านทัศนศึกษา ดูงาน และแลกเปลี่ยนเผยแพร่ซึ่งกันและกัน ด้านการประชาสัมพันธ์และด้านเทคนิคและวิธีการอื่นๆ ลักษณะงานของกิจกรรมที่วิทยาลัยครูเขตภาคกลางได้จัดขึ้นและเห็นว่าความสำคัญอยู่ใน 5 อันดับแรก ได้แก่ การจัดนิทรรศการ การจัดการแสดงและสาธิต การจัดงานประเพณี การจัดการประกวดและการจัดการอภิปราย ปาฐกถา ตามลำดับ เกี่ยวกับวิธีดำเนินการจัดกิจกรรมด้านวัฒนธรรมนั้น ปรากฏว่าวิธีการที่วิทยาลัยครูเขตภาคกลางได้กระทำเป็นผลสำเร็จมากที่สุด ได้แก่ การร่วมมือกับสถาบันเอกชน องค์การและหน่วยงานอื่นๆ ของรัฐ ด้านปัญหาและอุปสรรคในการทำนุบำรุง ส่งเสริม รักษาวัฒนธรรมท้องถิ่นนั้นพบว่าปัญหาส่วนใหญ่มีอยู่ในระดับค่อนข้างน้อย แต่ที่เป็นปัญหาหรืออุปสรรคที่สำคัญๆ และค่อนข้างมาก ได้แก่ ด้านปัญหาทั่วไป ด้านบุคลากร ส่วนปัญหาและอุปสรรคที่ค่อนข้างน้อย ได้แก่ด้านวิชาการ ด้านการประสานงานติดต่อ และด้านการดำเนินงานและวิธีการทำงาน แนวทางในการทำนุบำรุงวัฒนธรรมนั้นควรศึกษา ค้นคว้าและนำมาจัดทำเป็นหลักสูตร แล้วพยายามผลักดันให้ถึงโรงเรียนตั้งแต่ระดับอนุบาลขึ้นไปโดยการจัดเข้าไปในหลักสูตรทั้งในและนอกโรงเรียนมีการจัดการฝึกอบรมบุคลากรหลักด้านวัฒนธรรมส่วนการจัดกิจกรรมทางด้านวัฒนธรรมนั้นควรพัฒนาด้านการเรียนการสอนการค้นคว้าวิจัยให้เหมาะสมกับสภาพปัจจุบันโดยการจัดให้เหมาะสมกับวิธีดำเนินการจัดกิจกรรมได้หลายประการ เช่น การจัดอภิปราย การประกวด การจัดนิทรรศการ ส่วนการจัดทำหอวัฒนธรรมควรจัดในรูปประจำภาคคือ ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยแต่ละภาคเน้นไปคนละทางไม่ซ้ำแบบกัน โดยให้วิทยาลัยครูที่เป็นจุดศูนย์กลางของภาคนั้นรับผิดชอบ ข้อเสนอแนะ 1. วิทยาลัยครูเขตภาคกลางควรจะได้มีการประชุมเพื่อวางนโยบายด้านวัฒนธรรมให้ชัดเจน และควรมีการประสานงานติดต่อกันระหว่างวิทยาลัยเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ 2. สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ควรจะต้องจัดสรรงบประมาณให้ศูนย์วัฒนธรรมมากกว่าปัจจุบัน และกรมการฝึกหัดครูควรจะจัดสรรงบประมาณด้านวัฒนธรรมให้ด้วย 3. การจัดกิจกรรมของนักศึกษานั้น รองอธิการฝ่ายกิจการนักศึกษาควรจะสอดส่องดูแลให้กิจกรรมนั้นๆสอดคล้องกับวัฒนธรรมท้องถิ่น 4. การเรียนการสอนของอาจารย์ควรจะสอดแทรกเนื้อหาด้านวัฒนธรรมให้มากขึ้น 5. อาจารย์ที่ทำหน้าที่ทางด้านศูนย์วัฒนธรรมของวิทยาลัยครู ควรจะได้รับการลดชั่วโมงสอนลงหรือควรจะของบุคลากรสาย ค. มาทำหน้าที่แทนอาจารย์ 6. ควรจะมีการสอนวิชาวัฒนธรรมโดยให้เป็นวิชาบังคับแก่นักศึกษาที่เรียนในวิทยาลัยครู ทั้งระดับประกาศนียบัตรชั้นสูงและระดับปริญญา 7. ควรจะมีการจัดกลุ่มเพื่อฝึกประสบการณ์วิชาหัตถกรรมพื้นบ้าน ให้แก่ประชาชนและผู้สนใจ 8. ควรที่จะกำหนดแนวนโยบายการทำนุบำรุงส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมมุ่งไปสู่ประชาชนและบุคคลทั่วไปให้มากกว่าปัจจุบัน
Creative Commons License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
โรจนตระกูล, สธน, "บทบาทของวิทยาลัยครูในเขตภาคกลาง ที่มีต่อการทำนุบำรุงวัฒนธรรมของชาติ" (1983). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 53129.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/53129