Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
ความคิดเห็นของนิสิตฝึกสอน อาจารย์นิเทศก์ และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาเกี่ยวกับการฝึกสอนวิชาภาษาไทย คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
Opinions of student teachers, supervisors, and students in secondary schools concerning the Thai language practice teaching, Faculty of Education, Chulalongkorn University
Year (A.D.)
1983
Document Type
Thesis
First Advisor
สายใจ อินทรัมพรรย์
Faculty/College
Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)
Degree Name
ครุศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
มัธยมศึกษา
DOI
10.58837/CHULA.THE.1983.206
Abstract
วัตถุประสงค์ของการวิจัย 1. เพื่อศึกษาความคิดเห็นของนิสิตฝึกสอน อาจารย์นิเทศก์ และนักเรียนเกี่ยวกับการฝึกสอนวิชาภาษาไทยของนิสิตฝึกสอน คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในเรื่อง เวลาในการฝึกสอน การเตรียมการสอน การดำเนินการสอน การจัดกิจกรรมในห้องเรียน การวัดและประเมินผล บุคลิกภาพ และการปกครองชั้นเรียน 2. เพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของนิสิตฝึกสอน อาจารย์นิเทศก์ และนักเรียนเกี่ยวกับการฝึกสอนวิชาภาษาไทยของนิสิตฝึกสอน คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในเรื่องต่าง ๆ ดังกล่าวในข้อ 1 วิธีดำเนินการวิจัย ผู้วิจัยได้สร้างแบบสอบถาม 1 ชุด ถามเกี่ยวกับการฝึกสอนวิชาภาษาไทยของนิสิตฝึกสอน คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในเรื่อง เวลาในการฝึกสอน การเตรียมการสอน การดำเนินการสอน การจัดกิจกรรมในห้องเรียน การวัดและประเมินผล บุคลิกภาพ และการปกครองชั้นเรียน แล้วนำไปสอบถามนิสิตฝึกสอนวิชาภาษาไทย 13 คน อาจารย์นิเทศก์วิชาภาษาไทย 16 คน และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 5 ซึ่งได้รับการฝึกสอนจากนิสิตฝึกสอนในปีการศึกษา 2526 จำนวน 220 คน แล้วนำข้อมูลมาวิเคราะห์หาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และเปรียบเทียบความคิดเห็นระหว่างค่าเฉลี่ยของกลุ่มบุคคลทั้ง 3 กลุ่ม โดยค่าที (t-test) แล้วเสนอผลในรูปตารางและความเรียง นอกจากนี้ผู้วิจัยยังสร้างแบบสัมภาษณ์ 1 ชุด เพื่อสัมภาษณ์นิสิตฝึกสอนวิชาภาษาไทย 13 คน อาจารย์นิเทศก์วิชาภาษาไทย 16 คน และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 15 คน แล้วนำข้อมูลเสนอในรูปความเรียง ผลการวิจัย ผลการวิจัยจากการเปรียบเทียบความคิดเห็นของบุคคลทั้ง 3 กลุ่ม ปรากฏว่า 1. นิสิตฝึกสอนและอาจารย์นิเทศก์มีความคิดเห็นต่อการเตรียมการสอนของนิสิตฝึกสอนไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ในเรื่อง การเตรียมกิจกรรมการเรียนการสอนได้เหมาะสมกับนักเรียน เตรียมวิธีการวัดและประเมินผลได้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ในการสอน และเตรียมค้นเนื้อหาความรู้เพิ่มเติมประกอบการสอนได้ถูกต้อง และมีความคิดเห็นแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ในเรื่อง การกำหนดจุดประสงค์การเรียนได้เหมาะสม เตรียมเนื้อหาที่นำมาสอนในแต่ละชั่วโมงได้เหมาะสมและสอดคล้องกับหลักสูตร เตรียมวิธีสอนได้เหมาะสมกับเนื้อหาวิชาและนักเรียน เตรียมอุปกรณ์การสอนได้เหมาะสมกับเนื้อหาวิชาและนักเรียน เตรียมค้นเนื้อหาความรู้เพิ่มเติมประกอบการสอนจากที่อื่น และเตรียมจัดบรรยากาศในห้องเรียนได้อย่างเหมาะสมกับเนื้อหาวิชา 2. นิสิตฝึกสอน อาจารย์นิเทศก์ และนักเรียนมีความคิดเห็นเกี่ยวกับเวลาในการฝึกสอนไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ในเรื่อง ควรจัดฝึกสอนในภาคเรียนที่ 2 ระยะเวลาประมาณ 12 สัปดาห์ และควรจัดฝึกสอนทั้ง 2 ภาคเรียน ระยะเวลาประมาณ 12 สัปดาห์ 3. ทั้ง 3 กลุ่ม มีความคิดเห็นเกี่ยวกับการดำเนินการสอนของนิสิตฝึกสอนไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ในเรื่อง การนำเข้าสู่การเรียนได้สอดคล้องกับเรื่องที่สอน สอนเนื้อหาได้ถูกต้อง สอนภาษาไทยโดยเน้นให้นักเรียนมีพัฒนาการทักษะทั้งสี่ คือ ฟัง พูด อ่าน เขียน อธิบายเนื้อหาวิชาได้ชัดเจน ยกตัวอย่างได้เหมาะสมกับเนื้อหาและสัมพันธ์กับชีวิตประจำวันของนักเรียน บอกจุดมุ่งหมายของการสอนในแต่ละเรื่องให้นักเรียนทราบ และสอนภาษาไทยให้สัมพันธ์กับวิชาอื่น 4. ทั้ง 3 กลุ่ม มีความคิดเห็นเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมในห้องเรียนของนิสิตฝึกสอนไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ในเรื่อง การจัดกิจกรรมโดยคำนึงถึงความแตกต่างของนักเรียนแต่ละคน ให้นักเรียนทุกคนมีส่วนร่วมในกิจกรรม จัดกิจกรรมโดยให้นักเรียนสามารถนำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวันและเน้นให้นักเรียนมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ 5. ทั้ง 3 กลุ่ม มีความคิดเห็นเกี่ยวกับการใช้สื่อการสอนของนิสิตฝึกสอนไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ในเรื่อง การเขียนกระดานดำเป็นระเบียบ ใช้อุปกรณ์การสอนได้ตรงกับเนื้อเรื่องที่สอน ใช้อุปกรณ์การสอนที่มีขนาดใหญ่พอที่นัดเรียนจะเห็นได้ทั่วถึง และให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการจัดหาหรือทำอุปกรณ์ และมีความคิดเห็นแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ในเรื่องใช้อุปกรณ์การสอนที่มีราคาถูกที่จะช่วยประหยัดเวลาในการอธิบายเนื้อหา 6. ทั้ง 3 กลุ่ม มีความเห็นเกี่ยวกับ การวัดและประเมินผลของนิสิตฝึกสอนไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ในเรื่อง วัดและประเมินผลท้ายชั่วโมงที่สอน วัดและประเมินผลโดยให้นักเรียนตอบคำถามปากเปล่า ให้อภิปรายแสดงความคิดเห็น ให้ทำแบบฝึกหัด บอกให้นักเรียนทราบจุดมุ่งหมายในการวัดและประเมินผล วัดและประเมินผลโดยให้นักเรียนเล่นละครประกอบบทเรียนและให้แสดงบทบาทสมมุติ 7. ทั้ง 3 กลุ่ม มีความคิดเห็นเกี่ยวกับบุคลิกภาพของนิสิตฝึกสอนไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ในเรื่อง แต่งกายสะอาดเรียบร้อย ตรงต่อเวลา มีอารมณ์ดี ใจเย็น ยิ้มแย้มอยู่เสมอ มีความรับผิดชอบต่องานในหน้าที่และมีมนุษยสัมพันธ์ดีกับนักเรียนและบุคคลอื่น ๆ ในโรงเรียน และมีความคิดเห็นแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ในเรื่อง สามารถควบคุมอารมณ์ได้ไม่แสดงอารมณ์ต่าง ๆ ต่อหน้านักเรียน 8. ทั้ง 3 กลุ่ม มีความคิดเห็นเกี่ยวกับปกครองชั้นเรียนของนิสิตฝึกสอนไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ในเรื่อง สนใจนักเรียนอย่างทั่วถึง ในขณะที่สอนและขณะที่ทำกิจกรรม และจำชื่อนักเรียนได้หมดทุกคน และมีความคิดเห็นแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ในเรื่อง มีความยุติธรรม ไม่ลำเอียง และใช้วิธีการให้รางวัลและการลงโทษได้อย่างเหมาะสมกับสภาพการณ์ จากผลของการสัมภาษณ์ของบุคคลทั้ง 3 กลุ่ม สรุปได้ว่า นิสิตฝึกสอน อาจารย์นิเทศก์ และนักเรียนมีทัศนคติที่ดีต่อการฝึกสอนวิชาภาษาไทย นอกจากนี้นิสิตฝึกสอนและอาจารย์นิเทศยังต้องการให้ทางคณะเพิ่มความรู้ทางนาฏศิลป์ให้แก่นิสิตและมีความคิดเห็นว่าการประเมินผลการฝึกสอนของนิสิตนั้น ควรจะประเมินผลจากการสอนของนิสิตแต่ละครั้งและไม่ควรจะมีการสอบสอน สำหรับนักเรียนนั้นต้องการให้นิสิตฝึกสอนนำวิธีสอนหลาย ๆ อย่างมาใช้ และให้มีความยุติธรรมกับนักเรียนทุกคน
Creative Commons License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
ลายกนก, สิริวัฒน์, "ความคิดเห็นของนิสิตฝึกสอน อาจารย์นิเทศก์ และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาเกี่ยวกับการฝึกสอนวิชาภาษาไทย คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย" (1983). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 50907.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/50907