Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

คำกิริยาการีตในภาษาไทย

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Causative verbs in Thai

Year (A.D.)

1983

Document Type

Thesis

First Advisor

ปราณี กุลละวณิชย์

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

อักษรศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

ภาษาศาสตร์

DOI

10.58837/CHULA.THE.1983.604

Abstract

วิทยานิพนธ์นี้มีวัตถุประสงค์ที่จะศึกษาคำกริยาการีดในภาษาไทย ตามเกณฑ์ของชิบาตานิ เชฟ แอนเดอร์สัน และ ฮัลลิเดย์ โดยศึกษาลักษณะของการก ลักษณะของประโยคที่มีกริยาการีตเป็นกริยาหลัก และลักษณะของคำกริยาในประโยคซ้อนซึ่งมีกริยาการีตเป็นกริยาหลักจากผลการวิเคราะห์ สรุปได้ว่าคำกริยาการีตแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทตามโครงสร้างของประโยคคือ คำกริยาการีตที่เกิดในโครงสร้างประโยคซับซ้อน และคำกริยาการีตที่เกิดในโครงสร้างประโยคความเดียว หรือคำสกรรมกริยาการีต ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับคำสกรรมกริยา ลักษณะที่สำคัญของคำกริยาการีตก็คือ เมื่อคำกริยาชนิดนี้เกิดในประโยคจะแสดงให้เห็นถึงเหตุการณ์ 2 อย่าง คือ เหตุการณ์ที่เป็นสาเหตุและเหตุการณ์ที่เป็นผลคำกริยาการีตที่เกิดในโครงสร้างประโยคซับซ้อนมีอยู่ 3 คำคือ “ทำ" “ให้" และ “ทำให้" ซึ่งมีลักษณะแตกต่างกันในด้านต่าง ๆ 3 ด้าน คือ ด้านการกของประธาน อรรถลักษณะของประธานของคำกริยาการีตทั้งสาม และลักษณะของคำกริยาในประโยคซ้อนของคำกริยาการีตทั้งสาม ส่วนคำกริยาการีตที่เกิดในประโยคความเดียว ซึ่งเรียกว่าสกรรมกริยาการีต จะมีความคล้ายคลึงกับสกรรมกริยาธรรมดาที่เกิดในประโยคความเดียว นั่นคือ มีประธาน กริยา และกรรม แต่คำสกรรมกริยาการีตจะมีประธานเป็นผู้แสดง และมีกรรมที่เป็นผู้รับสภาพชนิดที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงสภาพด้วย คำสกรรมกริยาการีตที่เกิดในประโยคความเดียวนี้ แบ่งได้เป็น 2 ชนิด คือ คำสกรรมกริยาการีตที่มีคำอกรรมกริยาพ้องรูปพ้องเสียง และคำสกรรมกริยาการีตที่ไม่มีคำอกรรมกริยาพ้องรูปพ้องเสียงกัน

Share

COinS